เปรียบเทียบสเปคชัด ๆ iPhone 16 vs 15
ต่างกันแค่ไหน รุ่นไหนที่ควรซื้อ

สรุปง่ายๆ เทียบสเปค iPhone 16 กับ 15 ต่างกันอย่างไร

 ต้องบอกว่า iPhone 16 นี้มาพร้อมกับการปรับปรุงหลายด้าน ทั้งในเรื่องของดีไซน์ ประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ แม้ว่าเทียบรุ่นไอโฟนแล้ว จะยังคงรูปลักษณ์ภายนอกที่คล้ายคลึงกับ iPhone 15 แบบช็อตต่อช็อต แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายประการ อย่างเช่น กล้องแนวตั้ง, ชิปประมวลผลใหม่, และระบบ AI ที่ฉลาดขึ้น 

 นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงในด้านการแสดงผล ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ และความสามารถในการเชื่อมต่อ ทำให้ iPhone 16 เป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่าและผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สักเครื่อง

เปรียบเทียบรุ่นไอโฟนเรื่องดีไซน์แบบช็อตต่อช็อต

 เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ดีไซน์ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายๆ คนให้ความสนใจ และ Apple ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังในด้านนี้ ซึ่งใน iPhone 16 เราจะได้เห็นการปรับเปลี่ยนดีไซน์ที่น่าสนใจหลายจุดเมื่อเทียบสเปคกับ iPhone 15 เช่น

• การจัดวางกล้อง: iPhone 16 เปลี่ยนเป็นกล้องแนวตั้งคล้าย iPhone 11 ต่างจาก iPhone 15 ที่ยังเป็นรูปแบบสี่เหลี่ยม การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพและวิดีโอด้วย
• ปุ่มใหม่: iPhone 16 มาพร้อมปุ่ม Action และปุ่มภาพถ่าย (Capture Button) ใหม่ ปุ่ม Action สามารถกำหนดฟังก์ชันได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ทำให้การเข้าถึงฟีเจอร์ที่ใช้บ่อยทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนปุ่ม Capture ช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอทำได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็ว
• น้ำหนัก: iPhone 16 เบากว่า iPhone 15 เพียง 1 กรัม แม้จะเป็นความแตกต่างเพียงเล็กน้อย แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Apple ในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและการออกแบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• วัสดุ: ทั้ง iPhone 15 และ 16 ยังคงใช้วัสดุคุณภาพสูง แต่ iPhone 16 มีการปรับปรุงความทนทานของกระจกหน้าจอและด้านหลังให้แข็งแรงขึ้น ใช้จอภาพ Super Retina XDR ช่วยลดความเสี่ยงจากการแตกหรือเสียหายเมื่อตกหล่น

เจาะลึกเทียบสเปค iPhone เรื่องฟังก์ชั่นกล้องแบบเน้นๆ

iPhone 16 มาพร้อมกับการปรับปรุงระบบกล้องที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น

• รองรับการถ่ายภาพมาโคร และรูปภาพเชิงมิติพื้นที่ ทำให้สามารถถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็กได้อย่างคมชัด และสร้างภาพที่มีมิติมากขึ้น
• มีการเคลือบสารกันแสงสะท้อนบนผิวเลนส์ ช่วยลดแสงจ้าและเงาสะท้อนที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้ภาพถ่ายมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
• สามารถบันทึกวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ 1080p ที่ 30 fps เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
• รองรับการบันทึกวิดีโอมาโคร สโลว์โมชัน และไทม์แลปส์ เพิ่มความหลากหลายในการสร้างสรรค์วิดีโอ
• สามารถลดเสียงรบกวนหรือผสมเสียงได้ ช่วยให้คุณภาพเสียงในวิดีโอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• ระบบ AI ช่วยในการปรับแต่งภาพอัตโนมัติ ทำให้ภาพถ่ายสวยงามโดยไม่ต้องปรับแต่งมาก

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงโหมดถ่ายภาพกลางคืน ทำให้ภาพถ่ายในสภาพแสงน้อยมีคุณภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำขึ้น ช่วยให้การถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวทำได้ง่ายขึ้น

เทียบสเปค iPhone “จอภาพ” รุ่นนี้ มีอะไรที่แตกต่างออกไป?

จอภาพของ iPhone 16 ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การมองเห็นครั้งสำคัญทำให้ iPhone 16 มีจอภาพที่โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด แต่จะมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง? iPhone 16 มาพร้อมกับการปรับปรุงจอแสดงผลที่น่าประทับใจ อย่างเช่น

• iPhone 16 และ 16 Plus: จอ OLED Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้วตามลำดับ
• iPhone 16 Pro: จอขนาด 6.3 นิ้ว (ใหญ่ขึ้นจาก iPhone 15 Pro)
• iPhone 16Pro Max: จอขนาด 6.9 นิ้ว (ใหญ่ขึ้นจาก iPhone 15 Pro Max)
• ทุกรุ่นมีความสว่างสูงสุด 2,000 นิต เพิ่มขึ้นจาก iPhone 15 ทำให้สามารถใช้งานได้ดีแม้ในสภาพแสงสว่างจ้า
• มีการปรับปรุงเทคโนโลยี ProMotion ให้มีอัตรารีเฟรชที่ปรับเปลี่ยนได้ตั้งแต่ 1-120Hz ช่วยประหยัดพลังงานและให้ภาพเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น
• สีที่แสดงผลมีความแม่นยำมากขึ้น รองรับ HDR และ Dolby Vision ทำให้การรับชมวิดีโอและภาพถ่ายมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น
• กระจกหน้าจอใช้ Ceramic Shield รุ่นใหม่ ที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 50% ช่วยป้องกันการแตกร้าวได้ดียิ่งขึ้น

ชิป A18 ขุมพลังใหม่ที่จะปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟน

ชิป A18 ใน iPhone 16 ไม่ใช่แค่การอัปเกรดธรรมดา แต่เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราใช้งานสมาร์ทโฟน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และความสามารถด้าน AI ที่ล้ำสมัยกว่า A17 ใน iPhone 15 อย่างเห็นได้ชัด

• ใช้ชิป A18 ขนาด 3 นาโนเมตร (เทียบกับ A17 ขนาด 5 นาโนเมตรใน iPhone 15) ทำให้ประมวลผลได้เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น
• RAM เพิ่มขึ้นเป็น 8GB (จาก 6GB ใน iPhone 15) ช่วยให้การทำงานหลายแอพพร้อมกันทำได้ลื่นไหลมากขึ้น
• รองรับ Wi-Fi 7 (iPhone 15 รองรับ Wi-Fi 6) ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
• ประสิทธิภาพ CPU เพิ่มขึ้น 20% และ GPU เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ A17
• มี Neural Engine ที่ทำงานได้เร็วขึ้น 2 เท่า ช่วยในการประมวลผล AI และ Machine Learning ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ประหยัดพลังงานมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ A17 ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้การใช้งานแอพพลิเคชันที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น การเล่นเกม การตัดต่อวิดีโอ หรือการใช้งาน AR ทำได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น

แบตเตอรี่ใหม่ที่มาพร้อมกับการชาร์ตเร็วขึ้น

แบตเตอรี่ที่อึดและการชาร์จที่รวดเร็วไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย แต่เป็นความจำเป็นมากๆ ซึ่ง Apple เข้าใจความต้องการนี้เป็นอย่างดี ใน iPhone 16 จึงมาพร้อมกับการปรับปรุงด้านแบตเตอรี่ที่น่าสนใจ

• ความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นจาก 3,349 mAh เป็น 3,561 mAh ทำให้ใช้งานได้นานขึ้นประมาณ 2-3 ชั่วโมงเมื่อเทียบสเปคกับ iPhone 15
• รองรับการชาร์จแบบไร้สายใน MagSafe สูงสุด 25W เพิ่มขึ้นจาก 15W ใน iPhone 15 ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• ชาร์จได้ 50% ในเวลา 30 นาที ด้วยอะแดปเตอร์ขนาด 30W หรือสูงกว่า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วในเวลาที่จำกัด
• มีระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะที่ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้และปรับการทำงานให้เหมาะสม
• รองรับการชาร์จแบบย้อนกลับ (Reverse Wireless Charging) ทำให้สามารถชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ เช่น AirPods ได้โดยตรงจาก iPhone

การปรับปรุงด้านแบตเตอรี่นี้ทำให้ผู้ใช้ iPhone 16 สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างวัน และยังชาร์จได้เร็วขึ้นเมื่อจำเป็นต้องเติมพลังงาน

Apple Intelligence ระบบ AI ที่จะเปลี่ยนวิธีการใช้สมาร์ทโฟนของคุณ

iPhone 16 มาพร้อม Apple Intelligence ซึ่งเป็น AI ส่วนบุคคลที่มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น

• เครื่องมือการเขียนใหม่: ช่วยในการเขียนข้อความ อีเมล หรือเอกสารต่างๆ โดยสามารถแนะนำการใช้คำ ตรวจสอบไวยากรณ์ และปรับแต่งน้ำเสียงของข้อความได้
• Image Wand: เครื่องมือสร้างและแก้ไขภาพอัจฉริยะ สามารถสร้างภาพจากคำอธิบาย แก้ไขภาพโดยใช้คำสั่งเสียง หรือปรับแต่งภาพอัตโนมัติตามบริบท
• Genmoji: สร้างอิโมจิที่ไม่ซ้ำใครโดยใช้ AI วิเคราะห์ใบหน้าและสไตล์ของผู้ใช้ ทำให้การสื่อสารมีความเป็นส่วนตัวและสนุกสนานมากขึ้น
• Siri ที่ฉลาดขึ้น: สามารถเข้าใจบริบทและคำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้น ทำงานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และสามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชันของบุคคลที่สามได้ดีขึ้น
• การปกป้องความเป็นส่วนตัว: ข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ใน Apple Intelligence จะถูกประมวลผลบนตัวเครื่องเท่านั้น ไม่มีการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก แม้แต่ Apple เองก็ไม่สามารถเข้าถึงได้
• ระบบแนะนำอัจฉริยะ: AI จะเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานและแนะนำแอพ การตั้งค่า หรือการดำเนินการที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์
• การแปลภาษาแบบเรียลไทม์: สามารถแปลการสนทนาได้ทันทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รองรับหลายภาษาและสามารถแปลข้อความในรูปภาพได้ด้วย

เราจะเห็นได้เลยว่า Apple Intelligence ถือเป็นก้าวสำคัญของ Apple ในการนำ AI มาใช้ในสมาร์ทโฟน โดยเน้นการทำงานที่รวดเร็ว แม่นยำ และปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

ราคาเปิดตัว iPhone 16 เปรียบเทียบกับ iPhone 15

อย่างไรก็ตาม iPhone 16 ที่เพิ่งเปิดตัวไปนี้ จะมีราคาเปิดตัวที่สูงกว่า iPhone 15 เล็กน้อย แต่เทียบรุ่นไอโฟนแล้ว ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมากๆ 

แม้ว่าราคาจะสูงขึ้นประมาณ 3,000 บาทในแต่ละรุ่น แต่เมื่อพิจารณาถึงการปรับปรุงด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับ iPhone 16 ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานฟีเจอร์ล่าสุดและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

iPhone 16 มีกี่รุ่น กี่สี ราคาเท่าไหร่บ้าง

iPhone 16 ที่เปิดตัวไปนี้ มีทั้งหมด 4 รุ่น เทียบสเปค iPhone แต่ละรุ่นมีสีและราคาที่แตกต่างกัน ได้แก่

• iPhone 16 (6.1 นิ้ว):ดำ, ขาว, ชมพู, เขียวอมฟ้า, น้ำเงินอัลตรามารีน
  ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท
  • ความจุ 128GB
  • ความจุ 256GB
  • ความจุ 512GB
• iPhone 16 Plus (6.7 นิ้ว): ดำ, ขาว, ชมพู, เขียวอมฟ้า, น้ำเงินอัลตรามารีน
  ราคาเริ่มต้น 34,900 บาท
  • ความจุ 128GB
  • ความจุ 256GB
  • ความจุ 512GB
• iPhone 16 Pro (6.3 นิ้ว):ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ, ไทเทเนียมทะเลทราย
  ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท
  • ความจุ 128GB
  • ความจุ 256GB
  • ความจุ 512GB
  • ความจุ 1TB
• iPhone 16 Pro Max (6.9 นิ้ว): ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ, ไทเทเนียมทะเลทราย
  ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท
  • ความจุ 256GB
  • ความจุ 512GB
  • ความจุ 512GB

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเทียบสเปค iPhone คือ Apple ได้เพิ่มทางเลือกสีใหม่ๆ ที่สดใสและทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่นปกติ ส่วนรุ่น Pro ยังคงใช้โทนสีที่ดูหรูหราและมืออาชีพ ข้อดีของการมีหลายรุ่นและหลายขนาดความจุให้เลือกก็คือ ผู้ใช้สามารถเลือก iPhone ที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของตนเองได้นั่นเอง

ตารางเทียบสเปคแบบชัดๆ iPhone 16 VS 15

 การตัดสินใจเลือกซื้อ iPhone รุ่นใหม่หรืออัปเกรดจากรุ่นเก่า เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่มีอะไรจะช่วยคุณได้ดีไปกว่าการเปรียบเทียบสเปค iPhone แบบตรงไปตรงมา ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญของทั้ง iPhone 15 และ iPhone 16 มาไว้ในตารางเดียว รับรองว่าตารางนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแน่นอน

สรุป เทียบสเปค iPhone 16 และ 15 รุ่นไหนเหมาะกับใคร

 มาถึงจุดนี้ หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามีข้อมูลมากมายให้พิจารณาเต็มไปหมด แต่คำถามสำคัญที่สุดก็คือ "แล้วรุ่นไหนที่ใช่สำหรับเรากันแน่?" เราจึงได้วิเคราะห์คุณสมบัติเด่นของทั้ง iPhone 15 และ iPhone 16 ในทุกรุ่นย่อย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

• iPhone 15: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการฟีเจอร์ล่าสุดทั้งหมด
• iPhone 16: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านกล้อง, แบตเตอรี่ และฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบเทคโนโลยีล่าสุดและต้องการประสิทธิภาพสูง
• iPhone 16 Pro: เหมาะสำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะด้านการถ่ายภาพและวิดีโอ
• iPhone 16 Pro Max: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่และระบบกล้องที่ดีที่สุด รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานที่สุด

หากคุณเป็นผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและฟีเจอร์ล่าสุด iPhone 16 อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่หากคุณพอใจกับประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่ประหยัดกว่า iPhone 15 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อ iPhone เปรียบเทียบรุ่นที่ต้องการแล้ว คุณสามารถใช้บัตรเครดิตของ Lotus's Money Plus ในการซื้อได้เช่นกัน ทั้งบัตรแพลทินัมรีวอร์ด และแพลทินัมบียอนด์ ซึ่งมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการซื้อ iPhone

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสมัครบัตรเครดิตได้ที่

• บัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม บียอนด์
• บัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม รีวอร์ด

ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี