facebook messenger
บัตรเครดิตโลตัส
แพลทินัม บียอนด์
สิทธิประโยชน์บัตรเครดิต ช้อปปิ้ง เติมน้ำมัน ผ่อนสินค้า
บัตรเครดิตโลตัส บัตรเครดิตโลตัส

บัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม บียอนด์

ช้อปโลตัส ช้อปโลตัส

ช้อปโลตัส
รับคุ้มคืน

รับความคุ้มคืนสูงสุด 5%* จากยอดใช้จ่ายที่โลตัสทุกสาขา และโลตัส ช้อปออนไลน์

ผ่อนง่าย
สบายๆ

ผ่อน 0%* ทุกชิ้น ทั้งห้าง
เลือกผ่อน 0% ทุกชิ้น ทั้งห้างโลตัส นาน 3 เดือน* รูดก่อนแล้วสามารถเปลี่ยนเป็นรายการผ่อนทีหลังผ่านแอป UCHOOSE หรือ โทร.1712
ย้อนกลับ
ผ่อนชำระสินค้า 0%*
ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าและประกันภัยที่โลตัส หรือ สินค้าอื่นๆที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
• ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานสูงสุด10เดือน ที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่โลตัส เฉพาะสินค้าและสาขาที่ร่วมรายการเท่านั้น
• บริการผ่อนชำระประกันภัยรถยนต์ชั้นนำ และประกันภัยสุขภาพที่ร่วมรายการ ที่เคาน์เตอร์โลตัส มันนี่ พลัสหรือผ่านช่องทาง Call center 02-627-8888
ย้อนกลับ
ผ่อนสินค้า ผ่อนสินค้า
เติมน้ำมัน เติมน้ำมัน
เติมน้ำมันที่

ปั๊มบางจาก

รับเครดิตเงินคืน 3%* เมื่อเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจากรวมถึงปั๊มเอสโซ่ (เดิม) กว่า 2,000 สาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศไทย
24 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67
ช้อปทุกที่

ทั่วโลก

รับความคุ้มคืน 0.5%* (ยอดใช้จ่ายทุกๆ 20 บาทต่อรายการ ได้รับคะแนนสะสมโลตัส รีวอร์ดส 1 คะแนน)
ช้อปทุกที่ ทั่วโลก ช้อปทุกที่ ทั่วโลก
บริการ 24 ชั่วโมง บริการ 24 ชั่วโมง
บริการ

ช่วยเหลือ
ฉุกเฉิน

กรณีที่มีปัญหาประสบเหตุรถเสียระหว่างการขับขี่, น้ำมันหมด,กุญแจติดอยู่ในรถ และกรณีฉุกเฉิน เช่น มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ,ระบบประปา, กุญแจบ้าน, เครื่องปรับอากาศ และอื่นๆ รวมทั้งบริการเลขาส่วนตัวที่พร้อมให้ข้อมูล และจัดหาบริการเกี่ยวกับโรงแรม, ร้านอาหาร, สนามกอล์ฟ, คอนเสิร์ต และอีกมากมาย สามารถติดต่อขอใช้บริการได้ที่โทร 1712 ตลอด 24 ชั่วโมง
สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม
จากบัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม บียอนด์
สิทธิประโยชน์ที่เลือกสรรมาแล้วโดย มาสเตอร์การ์ด
สิทธิประโยชน์ที่เลือกสรรมาแล้วโดย มาสเตอร์การ์ด
พบกับข้อเสนอที่จะทำให้วันของคุณพิเศษยิ่งขึ้นกับ สายการบิน โรงแรม รถเช่า ร้านอาหารชั้นนำ และกิจกรรมความบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดทั้งปี ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://specials. priceless.com/th-th/homepage
1/3
เบิกถอนเงินสดที่ UCHOOSE หรือ ATM
เบิกถอนเงินสดที่ UCHOOSE หรือ ATM
ต้องการเงินสดฉุกเฉินสามารถใช้วงเงินบัตรเครดิตได้สูงสุด 100% ของวงเงินบัตรเครดิต โดยใช้เบิกถอนได้ที่แอป UCHOOSE หรือตู้ ATM ต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
2/3
ประกันภัยคุ้มครองการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์
ประกันภัยคุ้มครองการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์
วงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท ตลอดอายุสัญญา (1 ปีปฏิทิน) คุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายจากการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือชำระค่าสินค้าผ่านระบบการชำระเงินทางอินเตอร์เน็ตด้วยบัตรเครดิตโลตัส โดย MSIG Claim Center 1259
(24 ชั่วโมง) 1 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67 คลิก
3/3
ย้อนกลับ
ถัดไป
อัตราดอกเบี้ย ค่าบริการ ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมประเภทต่างๆ
ตารางค่าธรรมเนียม คลิกดูรายละเอียด
 
วิธีการคำนวณดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต
 
การคำนวณจำนวนเงินผ่อนชำระต่อเดือน เป็นการคำนวณโดยประมาณเท่านั้น  อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินขึ้นอยู่กับ วงเงินสินเชื่อของผู้สมัคร รายละเอียดเพิ่มเติม
วิธีการชำระเงินแบบแตะเพื่อจ่าย
วิธีการชำระเงินแบบแตะเพื่อจ่าย
มอบประสบการณ์การใช้จ่ายที่สะดวกและรวดเร็วกว่าไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้ง, เอนจอยมื้ออร่อย หรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ก็แตะจ่ายได้อย่างรวดเร็ว อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ใช้จ่ายสบายใจ ไร้การสัมผัส ให้มาสเตอร์การ์ดอยู่เบื้องหลังในทุกๆ การค้นพบประสบการณ์ใหม่ของคุณ ใช้จ่าย สบายใจ ไร้กังวล
tag & go
ทุกการใช้จ่าย
จัดการได้ไม่ต้องห่างบัตร
Tap & Go เพื่อใช้จ่าย ไม่ต้อง
ยื่นบัตรให้ใคร จ่ายและจบในมือคุณ
แตะบัตรแล้วเซ็นชื่อ
เพิ่มความอุ่นใจ เมื่อใช้จ่ายยอดสูง
แตะบัตรแล้วเซ็นชื่อ สำหรับยอดใช้จ่ายจำนวนสูงขึ้น
แตะบัตร
หายห่วงได้เสมอ แม้เผลอแตะบัตร
จ่ายเพียงครั้งเดียว ต่อให้เผลอแตะติดกันหลายครั้ง
ช่องทางชำระเงิน
ชำระเงินบัตรเครดิตโลตัส ฟรี! ผ่านทุกช่องทางของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
• บริการชำระคืนโดยหักผ่านบัญชีเงินฝากอัตโนมัติของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
• ชำระที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทั่วประเทศ
• ชำระที่เครื่องเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทั่วประเทศ
• ชำระผ่าน Krungsri Online
• ชำระผ่าน Krungsri Mobile Application


ขอแนะนำช่องทางชำระเงินให้พร้อมใช้จ่ายทันที (ชำระแล้ววงเงินกลับเข้ามาในบัตรทันที) ดังนี้ต่อไปนี้

• ชำระผ่าน UCHOOSE (หรือชำระผ่าน KMA) 
• ชำระผ่านแอปพลิเคชัน KMA
• ชำระผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
1/3
อัตราดอกเบี้ย ค่าบริการ ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมประเภทต่างๆ
ตารางค่าธรรมเนียม คลิกดูรายละเอียด
 
วิธีการคำนวณดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสินเชื่อบัตรเครดิต
 
การคำนวณจำนวนเงินผ่อนชำระต่อเดือน เป็นการคำนวณโดยประมาณเท่านั้น  อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินขึ้นอยู่กับ วงเงินสินเชื่อของผู้สมัคร รายละเอียดเพิ่มเติม
2/3
วิธีการชำระเงินแบบแตะเพื่อจ่าย
วิธีการชำระเงินแบบแตะเพื่อจ่าย
มอบประสบการณ์การใช้จ่ายที่สะดวกและรวดเร็วกว่าไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้ง, เอนจอยมื้ออร่อย หรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ก็แตะจ่ายได้อย่างรวดเร็ว อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ใช้จ่ายสบายใจ ไร้การสัมผัส ให้มาสเตอร์การ์ดอยู่เบื้องหลังในทุกๆ การค้นพบประสบการณ์ใหม่ของคุณ ใช้จ่าย สบายใจ ไร้กังวล
tag & go
ทุกการใช้จ่าย
จัดการได้ไม่ต้องห่างบัตร
Tap & Go เพื่อใช้จ่าย ไม่ต้อง
ยื่นบัตรให้ใคร จ่ายและจบในมือคุณ
แตะบัตรแล้วเซ็นชื่อ
เพิ่มความอุ่นใจ เมื่อใช้จ่ายยอดสูง
แตะบัตรแล้วเซ็นชื่อ สำหรับยอดใช้จ่ายจำนวนสูงขึ้น
แตะบัตร
หายห่วงได้เสมอ แม้เผลอแตะบัตร
จ่ายเพียงครั้งเดียว ต่อให้เผลอแตะติดกันหลายครั้ง
3/3
ช่องทางชำระเงิน
ชำระเงินบัตรเครดิตโลตัส ฟรี! ผ่านทุกช่องทางของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
• บริการชำระคืนโดยหักผ่านบัญชีเงินฝากอัตโนมัติของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
• ชำระที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทั่วประเทศ
• ชำระที่เครื่องเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทั่วประเทศ
• ชำระผ่าน Krungsri Online
• ชำระผ่าน Krungsri Mobile Application


ขอแนะนำช่องทางชำระเงินให้พร้อมใช้จ่ายทันที (ชำระแล้ววงเงินกลับเข้ามาในบัตรทันที) ดังนี้ต่อไปนี้

• ชำระผ่าน UCHOOSE (หรือชำระผ่าน KMA) 
• ชำระผ่านแอปพลิเคชัน KMA
• ชำระผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ย้อนกลับ
ถัดไป

หลักเกณฑ์การสมัครบัตร

คุณสมบัติผู้สมัคร
สำหรับพนักงานบริษัท
บุคคลธรรมดาอายุ 20 - 65 ปี
รายได้ประจำต่อเดือน
ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป สำหรับบัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม บียอนด์
ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป สำหรับบัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม รีวอร์ด
มีเบอร์โทรศัพท์มือถือ และเบอร์ที่ทำงาน
คุณสมบัติผู้สมัคร
สำหรับธุรกิจส่วนตัว
เจ้าของกิจการอายุ 20 - 65 ปี
เงินหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากของกิจการต่อเดือน
ตั้งแต่ 600,000 บาทขึ้นไป สำหรับบัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม บียอนด์
ตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป สำหรับบัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม รีวอร์ด
มีเบอร์โทรศัพท์มือถือ และเบอร์ที่ทำงาน
ดำเนินกิจการมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี

เอกสารประกอบการพิจารณา
สำเนาบัตรประชาชนด้านหน้า และด้านหลัง
สลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน ที่ระบุเงินเดือนและอายุงาน (เฉพาะพนักงานบริษัท)
สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ควรเป็นบัญชีเงินเดือนเข้า หรือบัญชีที่แสดงเงินหมุนเวียนของกิจการ)
สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท/หจก./ใบทะเบียนการค้า หรือสำเนาบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน (เฉพาะธุรกิจส่วนตัว)

สำหรับบัตรเสริม
แนบสำเนาบัตรประชาชนผู้สมัครบัตรเสริม และบัตรหลัก
*ไม่รับบัตรเสริมกรณีใช้บัญชีเงินฝากเป็นหลักประกัน

สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ บัตรเครดิตโลตัส

เลือกบัตรที่คุณสนใจ
บัตรเครดิตโลตัสแพลทินัม บียอนด์
รายได้ต่อเดือน 30,000 บาทขึ้นไป
บัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม รีวอร์ด
รายได้ต่อเดือน 15,000 บาทขึ้นไป

กรุณากรอกข้อมูลของท่านให้ครบถ้วนทุกช่อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับแจ้งสิทธิประโยชน์และวิธีสมัคร

ชื่อ*
นามสกุล*
จังหวัด(ที่อยู่ปัจจุบัน)*
สาขาโลตัสใกล้บ้าน*
เบอร์โทรศัพท์มือถือ*
อีเมล*
อาชีพ*
รายได้ประจำต่อเดือน*
กรุณากรอกข้อมูลให้ถูกต้อง และครบถ้วน
ข้าพเจ้าได้อ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดของประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าของบริษัทเรียบร้อยแล้ว https://www.lotussmoney.com/pdpa-private-policy


กรุณากรอกข้อมูลในช่องว่างที่มีสัญลักษณ์ *
ฝากชื่อให้ติดต่อกลับ
HIDDEN : PageReferenceCode
HIDDEN : utm_source
HIDDEN : utm_medium
HIDDEN : utm_campaign
HIDDEN : PageUrl
เงื่อนไขและข้อกำหนด บัตรเครดิตโลตัส pindown pinup

สัญญาการใช้บัตรเครดิตโลตัส

          ในสัญญานี้หากไม่กำหนดไว้โดยเฉพาะเป็นอย่างอื่นแล้ว “บริษัท” หมายถึง บริษัท โลตัสส์ มันนี่ เซอร์วิสเซส จำกัด “บัตร” หมายถึง บัตรเครดิตที่บริษัทออกให้แก่ผู้ถือบัตร (บัตรหลัก) และให้แก่บุคคลตามที่ผู้ถือบัตรหลักร้องขอ (บัตรเสริม) “ผู้ถือบัตร” หมายถึง ผู้ที่บริษัทได้อนุมัติให้เป็นสมาชิกของบริษัทเพื่อใช้บริการบัตรเครดิตและส่งมอบบัตรเครดิต ให้ใช้ในฐานะผู้ถือบัตรหลักและ/หรือผู้ถือบัตรเสริมก่อนการเปิดใช้บริการบัตร การลงลายมือชื่อหลังบัตรและ/หรือ การใช้บัตรนี้ผู้ถือบัตรกรุณาอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ตามสัญญานี้ให้เข้าใจเพราะโดยการลงลายมือชื่อหลังบัตร การเปิดใช้บริการบัตรและ/หรือการใช้บัตรนี้ของผู้ถือบัตรจะถือว่าผู้ถือบัตรตกลงยินยอมผูกพัน และปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดในสัญญานี้ทุกประการ

1. สิทธิหน้าที่ของผู้ถือบัตร
    1.1 บัตรที่บริษัทออกให้ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทซึ่งมอบให้ผู้ถือบัตรเป็นผู้ใช้เท่านั้นผู้ถือบัตรจะไม่จำหน่าย หรือ โอนสิทธิตามสัญญานี้ให้แก่บุคคลอื่นใดรวมทั้งไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นใดใช้บัตรแทนและ/หรือลงลายมือชื่อแทนในทุกกรณี ทั้งนี้ผู้ถือบัตรจะต้องลงลายมือชื่อในช่องที่กำหนดไว้ด้านหลังบัตรทันทีที่ได้รับบัตรโดยการลงลายมือชื่อหลังบัตรและ/หรือ การเปิดใช้บัตรนี้ให้ถือว่าผู้ถือบัตรตกลงยินยอมผูกพันและปฏิบัติตามข้อสัญญาต่างๆ ในสัญญานี้ทุกประการ
    1.2 ผู้ถือบัตรสามารถใช้บัตรนี้ในการ
         (ก) เบิกถอนเงินสดล่วงหน้า
         (ข) ชำระค่าสินค้า ค่าบริการต่างๆ และ/หรือค่าอื่นใดแทนการชำระเงินสดไม่ว่าจะผ่านทางร้านค้าหรือสถานที่ ให้บริการที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์บัตรติดตั้งอยู่ หรือ
         (ค) ทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ทางโทรศัพท์ ทางไปรษณีย์ หรือทางเครื่องเบิกถอนเงินสดอัตโนมัติ หรือทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น หรือโปรแกรมออนไลน์ที่จัดให้มีโดยบริษัท (“โปรแกรม”)  หรือโปรแกรมอื่นใด หรือช่องทางอื่นใดตามที่บริษัทจัดให้มีภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากบริษัท หรือในวงเงินที่ผู้ถือบัตรได้ใช้ไปจริง ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะไม่อนุมัติและ/หรือไม่รับผิดชอบวงเงินจากการใช้บัตร ที่เป็นการฝ่าฝืนวัตถุประสงค์การใช้บัตร หรือเป็นการฝ่าฝืนตาม ข้อ 2.1 โดยการทำธุรกรรมต่างๆ ดังกล่าว (รวมถึงการใช้บริการหักชำระค่าสินค้าและบริการโดยอัตโนมัติผ่านบัญชีบัตรของผู้ถือบัตร เช่น สาธารณูปโภค ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าสินค้าและค่าบริการต่างๆ) ผู้ถือบัตรตกลงให้ข้อสัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมต่างๆ ดังกล่าว (ถ้ามี) ไม่ว่าจะดำเนินการผ่านช่องทางหรือวิธีการใดๆ ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ และตกลงยอมรับในข้อกำหนด และเงื่อนไขต่างๆ ที่ระบุในสัญญาดังกล่าวทุกประการ
    1.3 ในกรณีที่ผู้ถือบัตรใช้บัตรแทนการชำระเงินเกินกว่าวงเงินถาวรที่บริษัทกำหนด โดยได้รับอนุมัติจากบริษัทเป็นครั้งคราว (วงเงินชั่วคราว) ไม่ถือว่าการอนุมัตินั้นเป็นการเพิ่มวงเงินถาวรให้ผู้ถือบัตร และผู้ถือบัตรต้องชำระส่วนที่เกินวงเงินที่ได้ใช้ไปให้กับบริษัทตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดทั้งนี้ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม หากผู้ถือบัตรได้ใช้บัตรเกินไปกว่าวงเงินที่ได้รับอนุมัติ ผู้ถือบัตรยังคงต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน
    1.4 ในกรณีที่บริษัทอนุมัติออกบัตรเสริมให้แก่ผู้ถือบัตรเสริมตามคำร้องขอของผู้ถือบัตรหลักแล้ว ผู้ถือบัตรหลักตกลงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และค่าธรรมเนียมต่างๆ) ที่เกิดขึ้นจากหรือเป็นผลมาจากการที่บริษัทออกบัตรให้แก่ผู้ถือบัตรเสริม และ/หรือการใช้บัตรของผู้ถือบัตรเสริมตามที่ผู้ถือบัตรหลักร้องขอโดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดเรื่องความสามารถทางกฎหมายของผู้ถือบัตรเสริม และจะไม่ยกข้อจำกัดดังกล่าวขึ้นเป็นข้อต่อสู้เพื่อปฏิเสธความรับผิดดังกล่าว หรือเป็นข้อโต้แย้งสิทธิของบริษัทในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเช่นว่านั้นทั้งหมดจากผู้ถือบัตรหลัก และผู้ถือบัตรหลักตกลงว่าการใช้บัตรของผู้ถือ บัตรเสริมเป็นการกระทำภายใต้อำนาจของผู้ถือบัตรหลักทุกประการ โดยผู้ถือบัตรหลักจะไม่ปฏิเสธความรับผิดใดๆ ที่ เกิดจากการใช้บัตรของผู้ถือบัตรเสริมไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ผู้ถือบัตรเสริมตกลงรับผิดร่วมกันกับผู้ถือบัตรหลักในฐานะลูกหนี้ร่วมเพื่อชำระเงินค่าสินค้าและ/หรือบริการอันเกิดจากการใช้บัตรเสริมในส่วนของตน รวมทั้งดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้แก่บริษัท ทั้งนี้ในกรณีที่บริษัทติดตามหนี้จากผู้ถือบัตรหลัก หรือผู้ถือบัตรเสริมรายใดรายหนึ่ง ไม่ถือเป็นการตัดสิทธิบริษัทในการติดตามหนี้จากผู้ถือบัตรที่เหลือซึ่งยังคงมีภาระหนี้อยู่ จนกว่าบริษัทจะได้รับชำระหนี้ครบถ้วนหมดสิ้นแล้วทั้งจำนวน
    1.5 ผู้ถือบัตรสามารถใช้บัตรนี้เบิกถอนเงินสดโดยวิธี (1) ทำธุรกรรมผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติหรือเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น หรือโปรแกรมของบริษัท หรือผ่านทางโปรแกรมออนไลน์ที่จัดให้มีโดยบริษัท ตามหลักเกณฑ์ในข้อ 5 และข้อ 7 ของสัญญานี้ (2) ทำธุรกรรมผ่านระบบ/โปรแกรม อื่นใดที่บริษัทจัดให้มีขึ้น (3) เบิกถอนผ่านเครือข่ายของ Mastercard/Visa โดยการเบิกถอนเงินสด ณ เคาน์เตอร์ที่มีเครื่องหมาย Mastercard/Visa และ/หรือ (4) เบิกถอนจากเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) หรือ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันการเงินที่มีเครื่องหมาย Mastercard/Visa/Maestro/Cirrus/ATM POOL หรือจากเครื่องฝากถอนอัตโนมัติที่บริษัทจัดเตรียมไว้ ตามหลักเกณฑ์ในข้อ 6 ของสัญญานี้โดย
         (ก) ผู้ถือบัตรตกลงปฏิบัติตามสัญญาฉบับนี้ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดใดๆ ที่อาจมีขึ้นเป็นครั้งคราว
         (ข) สำหรับกรณีการทำธุรกรรมผ่านระบบโทรศัพท์หรือทางเครื่องฝากถอนอัตโนมัติ หรือช่องทางอื่นใด ผู้ถือบัตรสามารถดำเนินการตั้งรหัสประจำตัว (Personal Identification Number หรือ PIN) ด้วยตนเองตามขั้นตอนที่บริษัทกำหนด เพื่อใช้ยืนยันตัวตนในการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า โดยอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของจำนวนเงินและจำนวนครั้งที่เบิกถอน โดยผู้ถือบัตรสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสดังกล่าวในภายหลังได้ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรต้องระมัดระวังป้องกันมิให้ผู้อื่นทราบหรือล่วงรู้เลขรหัสประจำตัวได้
         (ค) ในการเบิกถอนเงินสดผ่านบัตรไม่ว่าโดยวิธีหนึ่งวิธีใดตามที่ระบุข้างต้น ผู้ถือบัตรตกลงให้ถือว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำของผู้ถือบัตร
         (ง) ผู้ถือบัตรตกลงให้บริษัทคิดค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดในอัตราที่บริษัทกำหนด แต่ไม่เกินอัตราสูงสุดที่บริษัทจะเรียกเก็บได้ตามกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น โดยผู้ถือบัตรสามารถเบิกถอนเงินสดได้เป็นจำนวนไม่เกินวงเงินเบิกถอนเงินสดที่บริษัทกำหนด ซึ่งบริษัทจะประกาศให้ทราบเป็นคราวๆ ไป  ทั้งนี้สำหรับการเบิกถอนเงินสด ณ เคาน์เตอร์ ที่มีเครื่องหมาย Mastercard/VISA จำนวนเงินที่จะเบิกได้จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ผู้ให้บริการนั้นๆ เป็นผู้กำหนด
    1.6 นอกเหนือจากหลักเกณฑ์ตามข้อ 2.2 ผู้ถือบัตรตกลงว่าวงเงินของบัตรเครดิต รวมถึงวงเงินเบิกถอนเงินสดที่บริษัทอนุมัติให้ผู้ถือบัตรนั้นเป็นวงเงินที่บริษัทสามารถทำการพิจารณาเปลี่ยนแปลง (ไม่ว่าปรับเพิ่มหรือลด) ในภายหลังได้ตามหลักเกณฑ์ของบริษัท และเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยบริษัทจะดำเนินการทบทวนวงเงินของผู้ถือบัตร และสงวนสิทธิที่จะปรับเพิ่มหรือลดวงเงินบัตรเครดิตและ/หรือวงเงินเบิกถอนเงินสดของผู้ถือบัตร (รวมถึงการยกเลิกวงเงินเบิกเงินสด) ภายใต้หลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้ถือบัตรลักษณะการใช้บัตรประวัติ การชำระเงินและ/หรืออายุการเป็นสมาชิกบัตรของผู้ถือบัตร โดยผู้ถือบัตรสามารถทำการตรวจสอบวงเงินเบิกเงินสดของ ผู้ถือบัตรได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าของบริษัท หรือที่ช่องทางการให้บริการที่บริษัทกำหนด
    1.7 ในการใช้บัตรแทนการชำระเงินสดนั้น ผู้ถือบัตรต้องตรวจสอบสินค้า/บริการ และยอดที่ต้องชำระว่าถูกต้อง จึงดำเนินการตามขั้นตอนการใช้บัตรชำระแทนเงินสดตามที่บริษัทและ/หรือร้านค้า หรือสถานประกอบการกำหนด โดยผู้ถือบัตรจะต้องลงลายมือชื่อในเอกสารการขายหรือการให้บริการ (Sales Slip) หรืออุปกรณ์อื่นใดตามแบบที่บริษัทกำหนด เพื่อเป็นหลักฐานในการใช้บัตรแทนการชำระเงินทุกครั้ง เว้นแต่กรณีที่บริษัทหรือร้านค้าหรือสถานประกอบการกำหนดไว้เป็นการเฉพาะว่าไม่ต้องลงลายมือชื่อในเอกสารการขายหรือการให้บริการ (Sales slip) หรืออุปกรณ์อื่นใด (แล้วแต่กรณี) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม ผู้ถือบัตรยอมรับว่าเป็นการใช้บัตรชำระแทนเงินสดโดยสมบูรณ์แล้ว
ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรอาจขอรับใบเสร็จรับเงินจากสถานประกอบการเพื่อเป็นหลักฐานการซื้อสินค้าหรือบริการได้ แต่ใบเสร็จรับเงินดังกล่าวไม่ถือเป็นหลักฐานการชำระเงินของผู้ถือบัตรต่อบริษัทและไม่เป็นการปลดเปลื้องภาระรับผิดชอบของผู้ถือบัตรที่จะต้องชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่บริษัทจนครบถ้วน     
    1.8 ในกรณีที่ผู้ถือบัตรสั่งซื้อสินค้าโดยใช้บัตรชำระค่าสินค้าหรือค่าใช้บริการโดยการแจ้งหมายเลขบัตรด้วยวาจาหรือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้ขายสินค้าหรือแก่ผู้ให้บริการเพื่อทำการเรียกเก็บเงินจากบริษัท ผู้ถือบัตรตกลงดังนี้
         (ก) หากเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซต์หรือระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ถือบัตรตกลงยอมรับรายการที่เกิดขึ้น หากได้มีการกรอกข้อมูลและปฏิบัติตามวิธีการซื้อขายที่ถูกต้องดังที่ระบุในเว็บไซต์นั้นๆ เว้นแต่ผู้ถือบัตรสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นผู้ทำการซื้อสินค้าหรือบริการดังกล่าว และมีเหตุอันควรเชื่อพร้อมด้วยพยานหลักฐานสนับสนุนได้ว่ารายการที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความผิดหรือประมาทเลินเล่อของผู้ถือบัตร หรือผู้ถือบัตรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าว หากได้ถูกเรียกเก็บเงินและผู้ถือบัตรได้ชำระเงินแล้ว บริษัทจะคืนเงินให้ผู้ถือบัตรตามวิธีการที่บริษัทกำหนด
         (ข) หากเป็นการทำรายการผ่านช่องทางอื่นนอกจากข้อ 1.8 (ก)
ผู้ถือบัตรมีสิทธิขอยกเลิกการซื้อสินค้าหรือใช้บริการภายในระยะเวลา 45 วันนับแต่วันที่สั่งซื้อหรือขอใช้บริการหรือภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดการส่งมอบสินค้าหรือให้บริการ กรณีที่มีการกำหนดระยะเวลาส่งมอบสินค้าหรือบริการเป็นลายลักษณ์อักษร หากผู้ถือบัตรพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งซื้อสินค้าหรือไม่ได้ขอใช้บริการและมีเหตุอันเชื่อพร้อมด้วยพยานหลักฐานสนับสนุนได้ว่ารายการที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการกระทำของผู้ถือบัตรหรือผู้ถือบัตรไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าแต่ได้รับไม่ตรงตามกำหนดเวลา หรือได้รับแล้วแต่ไม่ครบถ้วนหรือชำรุดบกพร่องหรือไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ บริษัทจะระงับการเรียกเก็บเงินจากผู้ถือบัตรหรือกรณีเรียกเก็บเงินและผู้ถือบัตรได้ชำระเงินแล้ว ถ้าเป็นการสั่งซื้อสินค้าภายในประเทศ บริษัทจะคืนเงินให้ผู้ถือบัตรภายในระยะเวลา 30 วันนับแต่วันที่ผู้ถือบัตรแจ้ง ถ้าเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศ บริษัทจะคืนเงินให้ภายในระยะเวลา 60 วันนับจากวันที่ได้รับแจ้งจากผู้ถือบัตร เว้นแต่บริษัทพิสูจน์ได้ว่าภาระหนี้ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของผู้ถือบัตรเอง หรือมีเหตุอันเชื่อได้ว่ารายการที่เกิดขึ้นผู้ถือบัตรมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะใช้สิทธิเรียกเก็บเงินคืนจากผู้ถือบัตรในภายหลังโดยผู้ถือบัตรตกลงที่จะรับผิดในดอกเบี้ยและ/หรือ ค่าธรรมเนียมใดๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าวด้วย     
(ค) ในกรณีที่บริษัทมีข้อตกลงเป็นการเฉพาะกับผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ให้ผู้ถือบัตรสั่งซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่ผู้ถือบัตรเพียงแจ้งความประสงค์ขอชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการโดยการแจ้งหมายเลขบัตรด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร ให้ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการทำการเรียกเก็บเงินจากบริษัท บริษัทและผู้ถือบัตรตกลงดังนี้
(1)     ถ้าผู้ถือบัตรทักท้วงว่าไม่ได้เป็นผู้ทำการซื้อสินค้าหรือบริการดังกล่าว บริษัทจะระงับการเรียกเก็บเงินจากผู้ถือบัตรทันที หรือในกรณีที่เรียกเก็บเงินไปแล้ว บริษัทจะคืนเงินให้กับผู้ถือบัตรทันที เว้นแต่บริษัทจะพิสูจน์ได้ว่าภาระหนี้ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของผู้ถือบัตรเองหรือมีเหตุอันเชื่อได้ว่ารายการที่เกิดขึ้นผู้ถือบัตรมีส่วนเกี่ยวข้องและมีสิทธิเรียกคืนจากผู้ถือบัตรในภายหลัง
    (2)    ผู้ถือบัตรมีสิทธิขอยกเลิกการซื้อสินค้าหรือใช้บริการภายในระยะเวลา 45 วัน นับแต่วันที่สั่งซื้อหรือขอใช้บริการ หรือภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดการส่งมอบสินค้าหรือให้บริการกรณีที่มีการกำหนดระยะเวลาส่งมอบสินค้าหรือบริการเป็นลายลักษณ์อักษร หากผู้ถือบัตรพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้รับสินค้าหรือไม่ได้รับบริการและมีเหตุอันเชื่อพร้อมด้วยพยานหลักฐานสนับสนุนได้ว่ารายการที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการกระทำของผู้ถือบัตรหรือผู้ถือบัตรไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือได้รับแต่ไม่ตรงตามกำหนดเวลา หรือได้รับแล้วแต่ไม่ครบถ้วนหรือชำรุดบกพร่องหรือไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ บริษัทจะระงับการเรียกเก็บเงินจากผู้ถือบัตร หรือกรณีเรียกเก็บเงินไปแล้วถ้าเป็นการสั่งซื้อสินค้าภายในประเทศ บริษัทจะคืนเงินให้ผู้ถือบัตรภายในระยะเวลา 30 วันนับแต่วันที่ผู้ถือบัตรแจ้ง ถ้าเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศ  บริษัทจะคืนเงินให้ภายในระยะเวลา 60 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากผู้ถือบัตร เว้นแต่บริษัทพิสูจน์ได้ว่าภาระหนี้ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของผู้ถือบัตรเองหรือมีเหตุอันเชื่อได้ว่ารายการที่เกิดขึ้นผู้ถือบัตรมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะใช้สิทธิเรียกเก็บเงินคืนจากผู้ถือบัตรในภายหลังโดยผู้ถือบัตรตกลงที่จะรับผิดในดอกเบี้ยและ/หรือ ค่าธรรมเนียมใดๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าวด้วย
    1.9 ผู้ถือบัตรตกลงชำระหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรตามอัตราและวิธีการที่ได้ตกลงไว้กับบริษัท โดยบริษัทจะส่งใบแจ้งยอดบัญชี และ/หรือ ใบกำกับภาษี และ/หรือ ใบรับ (ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบกระดาษหรือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์) ทางไปรษณีย์หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือทางแอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งบนโทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดของผู้ถือบัตร หรือให้ผู้ถือบัตรตรวจสอบจากเว็บไซต์ของบริษัท หรือโปรแกรมของบริษัท และ/หรือ ช่องทางอื่นใดที่บริษัทจัดทำขึ้น เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 วันล่วงหน้าก่อนวันถึงกำหนดชำระ และผู้ถือบัตรตกลงชำระเงินค่าสินค้า ค่าบริการ หนี้อื่นใดอันเกิดจากการใช้บัตรโดยผู้ถือบัตรหลักและ/หรือผู้ถือบัตรเสริมรวมทั้งค่าธรรมเนียมอื่นๆ ให้บริษัทภายในวันที่กำหนดในใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิต ยอดเงินขั้นต่ำที่แสดงไว้ในใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิตจะเป็นยอดเงินขั้นต่ำที่ผู้ถือบัตรต้องชำระในแต่ละเดือน ในกรณีที่ผู้ถือบัตรเห็นว่าใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิตที่ได้รับไม่ถูกต้องทั้งหมดหรือบางส่วนไม่ว่าด้วยประการใด ผู้ถือบัตรจะต้องปฏิบัติดังนี้
         (ก) ทักท้วงภายใน 10 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ผู้ถือบัตรได้รับใบแจ้งยอดบัญชีจากบริษัทและ/หรือวันที่บริษัททำการแจ้งให้ท่านตรวจสอบข้อมูลใบแจ้งยอดบัญชีจากเว็บไซต์ของบริษัท ในการพิจารณาวันครบกำหนดดังกล่าวบริษัท จะนำสืบวัน เวลาที่นำส่งใบแจ้งยอดบัญชีให้แก่ผู้ขนส่ง หรือหากเป็นการจัดส่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) บริษัทจะนำสืบวัน เวลาที่ส่งใบแจ้งยอดบัญชี
         (ข) ในกรณีที่บริษัทตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายการในใบแจ้งยอดบัญชีนั้นถูกต้องแล้ว ผู้ถือบัตรจะต้องพิสูจน์ว่ารายการ และยอดค่าใช้จ่ายตามที่ปรากฏในใบแจ้งยอดบัญชีไม่ถูกต้อง และความไม่ถูกต้องนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากความผิด หรือความบกพร่องของผู้ถือบัตรเอง ทั้งนี้ผู้ถือบัตรจะต้องทักท้วงภายในระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่ผู้ถือบัตรได้รับในใบแจ้งยอดบัญชีจากบริษัท ทั้งนี้ ในกรณีผู้ถือบัตรต้องการสำเนาใบแจ้งยอดบัญชี เพื่อตรวจสอบรายการที่เกิดจากการใช้บัตร ผู้ถือบัตรตกลงจ่ายค่าธรรมเนียมการออกสำเนาใบแจ้งยอดบัญชีในอัตราที่บริษัทกำหนดให้แก่บริษัท
เมื่อบริษัทได้จัดส่งใบแจ้งยอดบัญชี และ/หรือ ใบกำกับภาษี และ/หรือ ใบรับ ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังที่ระบุในข้อนี้ตามที่ผู้ถือบัตรได้แจ้งความประสงค์ต่อบริษัทแล้ว ให้ถือว่าบริษัทได้จัดส่งใบแจ้งยอดบัญชี และ/หรือ ใบกำกับภาษี และ/หรือ ใบรับอย่างสมบูรณ์และถูกต้องตามกฎหมายแล้วในกรณีที่ผู้ถือบัตรมีความประสงค์ที่จะเปลี่ยนรูปแบบใบแจ้งยอดบัญชี และ/หรือ ใบกำกับภาษี และ/หรือ ใบรับ ผู้ถือบัตรจะต้องแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน

     1.10 ผู้ถือบัตรรับทราบและตกลงว่าค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดจากการใช้จ่ายผ่านบัตร (รวมถึงการเบิกเงินสด) เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศจะถูกเรียกเก็บเป็นเงินบาทไทยตามอัตราแลกเปลี่ยนที่บริษัทถูกเรียกเก็บจากบริษัทบัตรเครดิตที่บริษัทเป็นสมาชิกอยู่ ณ วันที่มีการเรียกเก็บยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าวกับบริษัท ทั้งนี้ หากสกุลเงินต่างประเทศดังกล่าวไม่ใช่สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ ยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าวอาจจะถูกแปลงเป็นสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐก่อนที่จะทำการแปลงเป็นสกุลเงินบาทเพื่อเรียกเก็บกับบริษัท ทั้งนี้ผู้ถือบัตรสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อใช้ในการอ้างอิงเบื้องต้นได้จาก
สำหรับบัตร MasterCard : https://www.mastercard.us/en-us/personal/get-support/convert-currency.html
สำหรับบัตร VISA: https://usa.visa.com/support/consumer/travel-support/exchange-rate-calculator.html
     นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรรับทราบและตกลงให้บริษัทคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินดังกล่าวในอัตราที่บริษัทกำหนดและแจ้งให้ทราบในตารางค่าธรรมเนียม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการแปลงสกุลเงินดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งค่าธรรมเนียมการใช้บัตรฯ เป็นสกุลเงินบาท ณ ร้านค้าที่จดทะเบียนในต่างประเทศ ในอัตราที่บริษัทกำหนดและแจ้งให้ทราบในตารางค่าธรรมเนียม


     1.11 กรณีที่บัตรสูญหาย หรือถูกโจรกรรม หรือไม่ว่าด้วยสาเหตุใดๆ ผู้ถือบัตรมีสิทธิยกเลิกหรือระงับการใช้บริการบัตรชั่วคราว โดยแจ้งให้บริษัททราบทันทีตามวิธีการที่บริษัทกำหนดหลังจากบริษัทได้รับแจ้งแล้วบริษัทจะระงับการให้บริการบัตรดังกล่าวภายใน 5 นาที นับแต่เวลาที่ได้รับแจ้ง ทั้งนี้ หากบริษัทไม่ได้รับแจ้งดังกล่าวข้างต้น ผู้ถือบัตรต้องรับผิดชอบในภาระหนี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อนึ่ง ผู้ถือบัตรไม่ต้องรับผิดชอบในภาระหนี้ที่เกิดขึ้นภายหลังจากครบกำหนดระยะเวลา 5 นาทีดังกล่าว (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าธรรมเนียมต่างๆ (ถ้ามี)) เว้นแต่บริษัทจะตรวจสอบและพิสูจน์ได้ว่าภาระหนี้ที่เกิดขึ้น (ไม่ว่าก่อนหรือหลังการแจ้ง) เกิดจากการกระทำของผู้ถือบัตร หรือมีเหตุอันเชื่อได้ว่าผู้ถือบัตรมีส่วนรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือประมาทเลินเล่อ ผู้ถือบัตรตกลงรับผิดชอบในภาระหนี้ดังกล่าวเต็มจำนวน
ในกรณีที่ผู้ถือบัตรมีสิทธิได้รับความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมจากการเป็นสมาชิกบัตรบางประเภทเกี่ยวกับการชดเชยกรณีบัตรสูญหายหรือถูกโจรกรรม ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิตามเงื่อนไขความคุ้มครองตามที่บริษัทกำหนดและแจ้งให้ทราบผ่านช่องทางต่างๆ เช่น คู่มือสิทธิประโยชน์ หรือเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

1.12 ในกรณีที่มีการทำธุรกรรมผ่านบัญชีบัตรโดยบุคคลอื่น (ไม่ว่าโดยการใช้บัตรหรือไม่ก็ตาม) ผู้ถือบัตรจะต้องแจ้งให้บริษัททราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวทันทีเพื่อทำการระงับการใช้บัตรและยกเลิกรหัสประจำตัว โดยหลังจากบริษัทได้รับแจ้งแล้วบริษัทจะระงับการให้บริการบัตรดังกล่าวภายใน 5 นาที นับแต่เวลาที่ได้รับแจ้ง ทั้งนี้ หากบริษัทไม่ได้รับแจ้งดังกล่าวข้างต้น ผู้ถือบัตรต้องรับผิดชอบในภาระหนี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อนึ่ง ผู้ถือบัตรไม่จำต้องรับผิดในภาระหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากครบระยะเวลา 5 นาทีนับแต่เวลาได้แจ้งเหตุให้บริษัททราบ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าธรรมเนียมต่างๆ (ถ้ามี)) เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทตรวจสอบและพิสูจน์ได้ว่าภาระหนี้ที่เกิดขึ้นดังกล่าว (ไม่ว่าก่อนหรือหลังการแจ้ง) เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ถือบัตร หรือมีเหตุอันเชื่อได้ว่าผู้ถือบัตรมีส่วนรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือประมาทเลินเล่อ ผู้ถือบัตรตกลงรับผิดชอบในภาระหนี้ดังกล่าวเต็มจำนวน
ในกรณีที่ผู้ถือบัตรมีสิทธิได้รับความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมจากการเป็นสมาชิกบัตรบางประเภทเกี่ยวกับการชดเชยกรณีการทำธุรกรรมผ่านบัญชีบัตรโดยบุคคลอื่น ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิตามเงื่อนไขความคุ้มครองตามที่บริษัทกำหนดและแจ้งให้ทราบผ่านช่องทางต่างๆ เช่น คู่มือสิทธิประโยชน์ หรือเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด
1.13 ในกรณีตามข้อ 1.11 และ 1.12 หากผู้ถือบัตรต้องการให้บริษัทออกบัตรให้ใหม่ ผู้ถือบัตรจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและหนี้ที่เกิดขึ้นจากบัตรใบเดิม (ในส่วนที่ผู้ถือบัตรต้องรับผิดชอบ) และผู้ถือบัตรจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการออกบัตรใหม่ในอัตราที่บริษัทได้แจ้งให้ผู้ถือบัตรทราบ และหากผู้ถือบัตรพบหรือได้รับบัตรที่สูญหาย หรือบัตรที่มีการทำธุรกรรมโดยบุคคลอื่นคืน (แล้วแต่กรณี) ผู้ถือบัตรต้องทำลายบัตรเดิม เพื่อป้องกันมิให้มีการนำบัตรไปใช้ได้อีก

1.14 ผู้ถือบัตรสามารถแจ้งบริษัทเพื่อยกเลิกการใช้บัตรเป็นการถาวรเมื่อใดก็ได้โดยแจ้งไปยังบริษัทและ/หรือ โดยการตัดบัตรออกเป็น 2 ส่วนและส่งคืนไปยังบริษัท ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสามารถร้องขอค่าธรรมเนียมรายปีตามส่วนของระยะเวลาที่ยังมิได้ใช้บริการจากบริษัท ทั้งนี้ บริษัทสามารถพิจารณานำต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงมาหักออกจากค่าบริการดังกล่าวก่อนคืนได้ โดยผู้ถือบัตรจะต้องทำเรื่องขอคืนค่าธรรมเนียมภายใน 1 ปีนับจากวันที่แจ้งยกเลิก และบริษัทจะคืนค่าธรรมเนียมรายปีเข้ายังบัญชีบัตรเครดิตของผู้ถือบัตร และการคืนค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรเสริมจะคืนเข้ายังบัญชีของบัตรหลัก
1.15 กรณีการใช้ข้อมูลบัตรในการทำธุรกรรมออนไลน์ และต้องมีการยืนยันการทำธุรกรรมด้วยรหัสผ่านครั้งเดียว (One-Time Password – OTP) ซึ่งบริษัทจะนำส่งรหัสผ่านให้ผู้ถือบัตรไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้ถือบัตรที่ได้ลงทะเบียนไว้กับบริษัท หรือผ่านแอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมของบริษัท ที่ผู้ถือบัตรได้ลงทะเบียนไว้กับบริษัท และ/หรือ ช่องทางอื่นใดที่บริษัทจัดทำขึ้น ผู้ถือบัตรตกลงว่าการยืนยันการทำธุรกรรมโดยวิธีดังกล่าวถือเป็นการลงลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ถือบัตรและผู้ถือบัตรตกลงรับผิดชอบในรายการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกประการ
         1.16 ผู้ถือบัตรตกลงว่าบริษัทและบริษัทข้อมูลเครดิต บริษัทประมวลผลข้อมูลเครดิตอื่นๆ ที่บริษัทเป็นสมาชิกอยู่จะเปิดเผย แลกเปลี่ยน โอน และ/หรือ ส่ง หรือส่งไปยังต่างประเทศ ซึ่งข้อมูลส่วนตัว และ/หรือข้อมูลเครดิต และ/หรือข้อมูลอื่นใดที่มีอยู่ในใบสมัคร หรือการสื่อสารใดๆ ที่มีอยู่กับบริษัท บริษัทข้อมูลเครดิต บริษัทประมวลผลข้อมูลเครดิตอื่นๆ ธนาคาร สถาบันการเงิน และนิติบุคคลอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกบริษัทข้อมูลเครดิต บริษัทประมวลผลข้อมูลอื่นๆ บริษัทแม่ และบริษัทในเครือของบริษัท เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทและผู้ถือบัตร เพื่อสนับสนุนการให้บริการของบริษัท  และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการติดตามทวงถามหนี้ ซึ่งหากผู้ถือบัตรไม่ยินยอมดังกล่าว อาจกระทบต่อการดำเนินการของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และ/หรือจะทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง เช่น การเปิดเผยข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของลูกค้าทางดิจิทัล การพิจารณาสินเชื่อ การทบทวนสินเชื่อ หรือ การประเมินเครดิตของผู้ถือบัตร หรือการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต การเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ให้บริการภายนอก หรือตัวแทนของบริษัท หรือตัวแทนของผู้ให้บริการ หรือผู้ให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ หรือผู้รับจ้างช่วงงานต่อ เพื่อให้บุคคลดังกล่าวดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทได้ บริษัทพันธมิตรอื่นๆ ร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกันในลักษณะ co-brand หน่วยงานราชการตามกฎหมาย ในกรณีที่ผู้ถือบัตรได้ปิดบัญชีหรือยกเลิกการใช้บริการของบริษัทไปแล้ว ให้บริษัทสามารถจัดเก็บหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลเครดิต และ/หรือข้อมูลอื่นใดที่อยู่ในใบสมัครและฐานข้อมูลของบริษัท เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและผู้ถือบัตรตกลงให้บริษัทสามารถนำผลการตรวจสอบดังกล่าวมาใช้ในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ถือบัตรว่ามีลักษณะเข้าข่ายกรณีต่างๆ ตามข้อ 2.2 หรือไม่
         1.17 ผู้ถือบัตรตกลงว่าบริษัทจะเปิดเผยแลกเปลี่ยน ส่ง และ/หรือ โอนข้อมูลของผู้ถือบัตรที่ให้ไว้กับบริษัท ทั้งในใบสมัคร หรือ ทางการสื่อสาร ตลอดจนข้อมูลใดๆ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ และ/หรือที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address)  และ/หรือช่องทางอื่นใดของผู้ถือบัตร ข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินของผู้ถือบัตรแก่บริษัทในเครือ ผู้ให้บริการภายนอก หรือตัวแทนของบริษัท หรือตัวแทนของผู้ให้บริการ หรือผู้ให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ หรือผู้รับจ้างช่วงงานต่อ เพื่อให้บุคคลดังกล่าวดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทได้ บริษัทพันธมิตรอื่นๆ ร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกันในลักษณะ co-brand หน่วยงานราชการตามกฎหมาย รวมทั้งการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ถือบัตร หรือการส่งใบแจ้งยอดบัญชี และ/หรือส่งข้อมูลหรือเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลเครดิตแก่ผู้ถือบัตรผ่านทางระบบสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต หรือคอมพิวเตอร์ หรือเพื่อพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ หรือการประเมินเครดิตของผู้ถือบัตร หรือการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต ทบทวนวงเงินสินเชื่อ รวมทั้งการติดตามทวงถามหนี้ค้างชำระ (หากมี) โดยระบุจำนวนค้างชำระได้ และผู้ถือบัตรจะแจ้งให้บริษัท ทราบทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งนี้ สำหรับการติดตามทวงถามหนี้ค้างชำระ (ถ้ามี) นั้น ผู้ถือบัตรรับทราบ และตกลงว่าบริษัทจะทำการมอบหมายให้กับบุคคลอื่นเพื่อดำเนินการแทนบริษัทหรือบริษัทอาจจะดำเนินการด้วยตนเองก็ได้ รวมถึงตกลงให้บริษัทสามารถรับชำระหนี้ใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้บัตรของผู้ถือบัตรจากบุคคลอื่นได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์ในการติดตามทวงถามหนี้ค้างชำระของผู้ถือบัตร ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของบริษัทซึ่งอยู่ภายใต้ระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
         1.18 ผู้ถือบัตรจะต้องแจ้งให้บริษัททราบทันทีในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง ชื่อ นามสกุล อาชีพ สถานที่ทำงาน  สถานที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และรายละเอียดอื่นๆ ทั้งนี้บรรดาข้อมูล/เอกสาร หรือหนังสือใดๆ ที่บริษัทส่งไปยังผู้ถือบัตร หากส่งไปยังที่อยู่ และ/หรือที่ทำงาน และ/หรือที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือผ่านช่องทางตามที่ผู้ถือบัตรได้แจ้งไว้ให้ถือว่าส่งให้ผู้ถือบัตรแล้วโดยชอบ  
         1.19 หากบริษัทมิได้แจ้งยกเลิก เรียกคืน หรือ ระงับการใช้บัตรตามข้อ 2.2 ผู้ถือบัตรสามารถนำบัตรนี้ไปใช้ได้ จนถึงวันที่บัตรหมดอายุซึ่งได้กำหนดไว้บนบัตร ทั้งนี้ การพิจารณาอนุมัติบัตรใหม่ให้กับผู้ถือบัตรนั้นจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์และดุลพินิจของบริษัท อย่างไรก็ดี หากบริษัทพิจารณาอนุมัติบัตรใหม่ให้ ผู้ถือบัตรตกลงยอมรับบัตรใหม่ดังกล่าวและเปิดใช้บัตรตามวิธีที่บริษัทกำหนด หรือในกรณีที่บริษัทไม่อนุมัติบัตรใหม่ให้ถือว่าสิทธิของผู้ถือบัตรตามสัญญานี้สิ้นสุดลงโดยผู้ถือบัตรมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ใดๆ  ที่คงค้างตามสัญญานี้ต่อไปจนกว่าจะชำระครบถ้วนหมดสิ้นทั้งจำนวน
         1.20 ผู้ถือบัตรตกลงและยินยอมให้บริษัทนำเงินที่ได้รับชำระจากผู้ถือบัตรไปหักจากยอดเงินที่บริษัทเรียกเก็บโดยมีเงื่อนไขการชำระเงินและลำดับการหักยอดเงินตามที่ระบุไว้ในใบแจ้งยอดบัญชีบัตรที่บริษัทจัดส่งให้กับผู้ถือบัตร

2. สิทธิหน้าที่ของบริษัท
    2.1 บริษัทเป็นเพียงผู้ให้บริการบัตรเครดิตซึ่งเป็นตัวกลางการชำระเงินค่าสินค้าและ/หรือบริการ จึงไม่มีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบในกรณีที่ธนาคาร ร้านค้า หรือผู้ประกอบการไม่รับบัตรหรือปฏิเสธการรับบัตรของผู้ถือบัตรในการทำธุรกรรมต่างๆ และบริษัทไม่จำต้องรับผิดชอบในข้อตกลงหรือเงื่อนไขใดๆ ที่เกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ซึ่งผู้ถือบัตรได้ทำไว้กับร้านค้า ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการ หรือสถานที่เหล่านั้น กรณีที่มีข้อพิพาทอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ผู้ถือบัตรตกลงที่จะเรียกร้องหรือดำเนินคดีกับร้านค้าหรือผู้ประกอบการโดยตรง และจะไม่เรียกร้องให้บริษัทยกเลิกรายการทำธุรกรรมดังกล่าว รวมถึงจะไม่เรียกร้องให้บริษัทร่วมรับผิดด้วย เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดความรับผิดของบริษัทไว้เป็นอย่างอื่น  ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรตกลงว่าบริษัทมีสิทธิระงับหรือไม่อนุมัติการทำธุรกรรมที่มีวัตถุประสงค์ เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งตามกฎหมาย เป็นการพ้นวิสัยหรือ เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน รวมถึงการใช้บัตรใดๆ ที่เป็นไปในลักษณะผิดวัตถุประสงค์ปกติของการใช้บัตร หรือการใช้บัตรในเชิงพาณิชย์ หรือใช้ในการประกอบธุรกิจของผู้ถือบัตร/บุคคลอื่น หรือมีลักษณะการใช้บัตรในทางการค้าหรือหากำไร หรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบให้กับตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมส่อไปในทางทุจริต
    2.2 บริษัทสงวนสิทธิ์ในการลดวงเงิน พิจารณาไม่ต่ออายุบัตร ระงับสิทธิการใช้บัตร และ/หรือ งดเว้นการให้บริการอย่างหนึ่งอย่างใด และ/หรือยกเลิกหรือเพิกถอนการเป็นผู้ถือบัตร (ทั้งบัตรหลักและ/หรือบัตรเสริม) ในกรณีที่เกิดเหตุแห่งการผิดสัญญาหรือเหตุแห่งการบอกเลิกสัญญาเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้ขึ้น ทั้งนี้ เฉพาะการแจ้งระงับหรือยกเลิกหรือเพิกถอนการเป็นผู้ถือบัตร บริษัทจะแจ้งให้ทราบเป็นหนังสือ โดยผู้ถือบัตรยังคงต้องรับผิดชอบในยอดคงค้างที่ยังไม่ได้ชำระให้กับบริษัทภายในเวลาที่บริษัทกำหนดในหนังสือแจ้งการระงับหรือเพิกถอนสิทธิดังกล่าว
         (ก) ผู้ถือบัตรปกปิดข้อมูลที่ควรแจ้ง หรือแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จให้แก่บริษัท หรือจัดให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลของบุคคลอื่น ซึ่งทำให้บริษัทสำคัญผิดในคุณสมบัติของผู้ถือบัตร ในการสมัครเป็นผู้ถือบัตรไม่ว่าข้อความอันเป็นเท็จนั้นจะได้ปรากฏขึ้น หรือเป็นที่รับทราบของบริษัทก่อน หรือภายหลังการออกบัตรให้ผู้ถือบัตรหรือบริษัทตรวจสอบพบในภายหลังว่าการสมัครหรือการอนุมัติบัตรเกิดจากการสำคัญผิด หรือเกิดจากการดำเนินการโดยทุจริต
         (ข) ผู้ถือบัตรไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขข้อหนึ่งข้อใดของสัญญานี้ หรือดำเนินการใดๆ อันไม่เป็นไปตามวิธีการที่บริษัทกำหนด
         (ค) ผู้ถือบัตรผิดนัดชำระหนี้ใดๆ ที่ค้างชำระเมื่อถึงกำหนดชำระไม่ว่ากับบริษัท หรือบุคคลใดๆ หรือผิดนัดชำระหนี้ที่ค้างชำระกับบริษัทเมื่อถึงกำหนดชำระเป็นจำนวนรวมกันตั้งแต่ 2 งวดขึ้นไปภายในรอบ 6 เดือน หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ถือบัตรอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้จนเสร็จสิ้น
         (ง) เกิดการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงินของผู้ถือบัตรหรือรายได้จากแหล่งที่มาต่างๆ (หรือผู้ถือบัตรมีภาระหนี้ หรือ วงเงินไม่ว่ากับบริษัท หรือสถาบันการเงินหรือนิติบุคคลอื่นสูงเกินกว่ารายได้) และบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ถือบัตรเป็นผู้มีฐานะการเงินไม่เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ที่เกิดขึ้นจากการใช้บัตร หรือ ผู้ถือบัตรประสบปัญหาอื่นใดอันเป็นสาระสำคัญซึ่งมีผลต่อการชำระหนี้ของผู้ถือบัตร 
         (จ) ผู้ถือบัตรเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และ/หรือโครงการหรือมาตรการช่วยเหลืออื่นใด ซึ่งระบุเงื่อนไขในการระงับการใช้บัตร และ/หรือยกเลิกสัญญาการใช้บัตรเครดิต
     (ฉ) บริษัทพบว่าผู้ถือบัตรใช้บัตรผิดวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในสัญญานี้และ/หรือมีพฤติกรรม หรือ คุณสมบัติที่ผิดปกติหรือไม่เหมาะสมในการใช้บัตร หรือ เป็นสมาชิกผู้ถือบัตร (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการนำสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการเป็นสมาชิกบัตรไปโอนและ/หรือจำหน่าย ไม่ว่าได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ ให้แก่บุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท)  รวมถึงการใช้บัตรเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ หรือการใช้บัตรในเชิงพาณิชย์ หรือมีลักษณะการใช้บัตรเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบให้กับตนเองหรือผู้อื่น หรือ มีพฤติกรรมการใช้บัตรในทางฉ้อฉล หรือทุจริต หรือ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการปลอมและการใช้เอกสารปลอมในการขอใช้บัตรและ/หรือการกระทำอันมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะเป็นการฟอกเงิน) หรือ เป็นการพ้นวิสัย หรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
         (ช) ผู้ถือบัตรถูกดำเนินคดีแพ่ง หรือถูกกล่าวหาเป็นคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างถูกพิทักษ์ทรัพย์ หรือตกเป็นบุคคลล้มละลายตามคำพิพากษา หรือเป็นบุคคลที่ถูกหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานที่มีอำนาจมีคำสั่งให้ยึด/อายัดทรัพย์ หรือมีพฤติกรรมอันถือได้ว่าเป็นการฉ้อฉลบริษัท หรือสถาบันการเงินหรือบุคคล/นิติบุคคลอื่น
         (ซ) ผู้ถือบัตรถึงแก่ความตาม สาบสูญ หรือตกเป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ ตามแต่กรณี หรือมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่บริษัทกำหนด
         (ฌ) ผู้ถือบัตรไม่แสดงหรือไม่สามารถแสดงหลักฐานเงินได้ขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และ/หรือหน่วยงาน ราชการที่เกี่ยวข้องกำหนดภายในระยะเวลาที่บริษัทกำหนด
         (ญ) เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย กฎกระทรวง และ/หรือประกาศของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญแก่การประกอบกิจการของบริษัทและ/หรือการให้บริการของบริษัทตามสัญญาฉบับนี้ หรือบริษัทตัดสินใจยกเลิกการให้บริการบัตรเครดิตตามสัญญานี้
         (ฎ) ในกรณีที่ผู้ถือบัตรไม่มียอดคงค้าง หรือไม่มียอดใช้จ่ายผ่านบัญชีของผู้ถือบัตร หรือไม่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชี หรือไม่ได้มีการติดต่อกับบริษัท และ/หรือบริษัทไม่สามารถติดต่อผู้ถือบัตรได้ (กรณีใดกรณีหนึ่ง) เป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 12 เดือน หรือระยะเวลาอื่นใดตามที่บริษัทกำหนด
         (ฏ) กรณีอื่นๆ ตามที่บริษัทจะประกาศให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ในกรณีที่บัตรหลักถูกระงับหรือถูกยกเลิก (รวมถึง กรณีที่ไม่ได้รับการต่ออายุบัตร) จะมีผลทำให้บัตรเสริมถูกระงับและ/หรือถูกยกเลิกพร้อมกันกับบัตรหลักทันที
อย่างไรก็ดี กรณีผู้ถือบัตรเสียชีวิต ให้ถือว่าสัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง และบริษัทมีสิทธิเรียกร้องในยอดหนี้ค้างชำระทันที โดยบริษัทไม่จำต้องส่งคำบอกกล่าวเพื่อเลิกสัญญา

     2.3 ในระหว่างที่มีเหตุแห่งการผิดสัญญาหรือเหตุแห่งการบอกเลิกสัญญา เหตุใดเหตุหนึ่งเกิดขึ้น (นอกเหนือจากสิทธิในการลดวงเงิน พิจารณาไม่ต่ออายุบัตร ระงับสิทธิการใช้และ/หรือยกเลิกหรือเพิกถอนการเป็นผู้ถือบัตรเมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งตามที่ระบุในข้อ 2.2 ข้างต้นแล้ว) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือระงับการให้บริการอย่างหนึ่งอย่างใด หรือยกเลิกสิทธิพิเศษหรือสิทธิประโยชน์ใดๆ ที่ได้ให้กับผู้ถือบัตร (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกรณีที่ผู้ถือบัตรได้รับอัตราค่าธรรมเนียมสินเชื่อในอัตราพิเศษ) โดยเมื่อมีเหตุแห่งการผิดสัญญาหรือเหตุแห่งการบอกเลิกสัญญาเหตุใดเหตุหนึ่งเกิดขึ้น บริษัทสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมสินเชื่อพิเศษที่ผู้ถือบัตรได้รับให้เป็นอัตราค่าธรรมเนียมสินเชื่อในอัตราสูงสุดที่บริษัทสามารถเรียกเก็บได้ในขณะนั้น จนกว่าเหตุแห่งการผิดสัญญา หรือเหตุแห่งการบอกเลิกสัญญานั้นจะได้ถูกแก้ไขโดยไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยและ/หรือค่าธรรมเนียมที่บริษัทต้องแจ้งให้ผู้ถือบัตรทราบล่วงหน้า

     2.4 บริษัทมีสิทธิที่จะโอนสิทธิหน้าที่และผลประโยชน์ใดๆ ตามสัญญาฉบับนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่บุคคลอื่นได้โดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมใดๆ จากผู้ถือบัตร ทั้งนี้บริษัทจะแจ้งการโอนเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โปรแกรมออนไลน์ ทางไปรษณีย์  หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทางอื่นใดตามที่บริษัทจัดให้มีขึ้นไปยังผู้ถือบัตร
     2.5 บริษัทมีสิทธิเปลี่ยนแปลงงวดบัญชีของผู้ถือบัตร โดยจะแจ้งให้ผู้ถือบัตรทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน และให้ถือว่าหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรนั้นถึงกำหนด ชำระตามที่ระบุไว้ในใบแจ้งยอดบัญชี โดยไม่ถือเป็นการแปลงหนี้ใหม่
     2.6 บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของการใช้บัตรเครดิต อัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการให้บริการใดๆ หรือเพิกถอนสิทธิประโยชน์ของบัตรไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เฉพาะต่อผู้ถือบัตรรายใดรายหนึ่งได้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ถือบัตรทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โปรแกรมออนไลน์ ทางไปรษณีย์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทางอื่นใดตามที่บริษัทจัดให้มีขึ้น ก่อนจะมีผลบังคับใช้ไม่น้อยกว่าสามสิบ (30) วัน เว้นแต่ในกรณีเร่งด่วน บริษัทจะแจ้งให้ทราบทางจดหมาย ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือประกาศทางเว็บไซต์ของบริษัทหรือหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ด (7) วันก่อนมีผลใช้บังคับและแจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทราบอีกครั้งหนึ่งตามช่องทางที่ระบุข้างต้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวข้างต้นเป็นประโยชน์หรือลดภาระแก่สมาชิกซึ่งมีผลใช้บังคับได้ทันที บริษัทจะแจ้งให้สมาชิกทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายในสามสิบ (30) วัน หลังมีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้และผู้ถือบัตรตกลงผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขใหม่ที่แจ้งให้ทราบแล้วโดยไม่ต้องทำเอกสารหลักฐานใดๆ ให้แก่บริษัทอีกทั้งสิ้น
     2.7 การล่าช้าหรืองดเว้นใดๆ ในการใช้สิทธิของบริษัทตามกฎหมาย หรือ ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขนั้น ไม่ถือว่า บริษัทสละสิทธิหรือให้ความยินยอมในการดำเนินการใดๆ แก่ผู้ถือบัตรแต่ประการใด

3. การชำระหนี้ ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม
    ผู้ถือบัตรตกลงให้บริษัทเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังต่อไปนี้
    3.1 การใช้บัตรเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าหรือใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการต่างๆ แทนการชำระเงินสดผู้ถือบัตร ตกลงที่จะชำระคืนให้แก่บริษัทพร้อมกับค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) โดยที่ยอดชำระขั้นต่ำในแต่ละงวดต้องไม่น้อยกว่าอัตราที่บริษัทประกาศใช้ ณ ขณะนั้น
    3.2 ในกรณีผู้ถือบัตรไม่สามารถชำระเงินครบถ้วนเต็มจำนวนตามใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิตในคราวเดียวกันภายในวันที่ถึงกำหนดชำระถือว่าผู้ถือบัตรขอผ่อนเวลาการชำระหนี้ส่วนที่เหลือโดยตกลงที่จะชำระ ก) ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ในยอดหนี้ทั้งจำนวนโดยคิดคำนวณจากวันที่มีการบันทึกรายการ/วันที่ได้รับเงินต้น (ตามแต่กรณี) จนถึงวันที่ผู้ถือบัตร ชำระหนี้บางส่วน และ ข) ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในยอดหนี้ค้างชำระที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ สำหรับอัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมนั้นให้เป็นไปตามอัตราที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ไม่เกินอัตราสูงสุดที่บริษัทจะเรียกเก็บได้ตามที่กฎหมายกำหนดในขณะนั้น โดยบริษัทจะคำนวณดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมดังกล่าวนับจากวันที่บริษัทจ่ายเงินให้ร้านค้าจนถึงวันที่ผู้ถือบัตรชำระหนี้ครบถ้วน ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินรวมกันเรียกว่า “ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ”
    3.3 กรณีที่ผู้ถือบัตรทำธุรกรรมใดๆ ที่เข้าลักษณะการผ่อนชำระเงินต้นที่ใช้จ่ายผ่านบัตร (หรือเบิกถอนผ่านบัตร) เป็นรายงวดตามจำนวนเงินและจำนวนงวดที่ตกลงกับบริษัท ผู้ถือบัตรตกลงและรับทราบว่าจำนวนเงินที่ผู้ถือบัตรต้อง ชำระแต่ละงวดตามที่บริษัทแจ้งให้ผู้ถือบัตรทราบนั้นเป็นการคำนวณเบื้องต้นโดยใช้อัตราดอกเบี้ย/ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินแบบคงที่เพื่อความสะดวกในการคำนวณหาจำนวนยอดเงินที่ผู้ถือบัตรต้องชำระต่อเดือน ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทใช้หลักเกณฑ์ในการคำนวณค่าธรรมเนียมสินเชื่อแบบลดต้นลดดอก หากผู้ถือบัตรมีการชำระเงินงวดหนึ่งงวดใดน้อย หรือมากกว่าจำนวนที่ระบุข้างต้นและ/หรือมีการชำระไม่ตรงเวลาที่กำหนดจะไม่กระทบจำนวนยอดเงินที่จะชำระในแต่ละงวด (ยกเว้นงวดสุดท้าย) แต่จะมีผลให้จำนวนยอดเงินที่ผู้ถือบัตรต้องชำระในงวดสุดท้ายเพิ่มขึ้นหรือลดลง (ตามแต่กรณี) และ/หรืออาจทำให้จำนวนงวดที่ต้องชำระลดลงหากมีการชำระค่างวดเกินกว่าจำนวนที่กำหนดในแต่ละงวด
    3.4 กรณีที่ผู้ถือบัตรชำระหนี้ตามบัตรโดยการใช้เช็ค และปรากฏว่าเช็คดังกล่าวถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน  ผู้ถือบัตรตกลงเสียค่าปรับกรณีเช็คคืนในอัตราที่บริษัทกำหนด แต่ไม่เกินอัตราสูงสุดที่บริษัทจะเรียกเก็บได้ตามกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน
    3.5 ผู้ถือบัตรตกลงที่จะชำระค่าธรรมเนียมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัตรตามที่ได้มีการระบุไว้ในใบสมัคร และในตารางค่าธรรมเนียม (หรือที่จะได้มีการแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมในภายหน้า) ให้กับบริษัท (ถ้ามี) ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ดังกล่าวจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาต
    3.6 นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมตามข้อ 3.5 แล้ว ในการใช้บัตรชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการรวมถึงการเบิกเงินสดนั้น ในกรณีที่การทำรายการต่างๆ ดังกล่าว มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายโดยผู้ประกอบการ หรือร้านค้าโดยทำการเรียกเก็บผ่านทางบัญชีบัตร ผู้ถือบัตรตกลงและรับทราบว่าผู้ถือบัตรได้รับทราบถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ณ ขณะทำรายการหรือใช้บัตรและตกลงที่จะชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ดังกล่าวที่เกิดขึ้น
    3.7 หากมีการติดตามทวงถามหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรผู้ถือบัตรตกลงรับผิดชอบชดใช้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้บริษัทเต็มตามจำนวนซึ่งรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีตามกฏหมาย ค่าทนายความ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในการที่บริษัทจะใช้สิทธิตามกฎหมายบังคับให้ผู้ถือบัตรชำระหนี้ตามความในสัญญานี้
3.8. ในกรณีที่บริษัทอนุมัติให้ผู้ถือบัตรเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และ/หรือโครงการหรือมาตรการช่วยเหลืออื่นใด ผู้ถือบัตรตกลงว่าเงื่อนไขการชำระหนี้ของผู้ถือบัตรจะเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และ/หรือโครงการหรือมาตรการช่วยเหลือที่ผู้ถือบัตรเข้าร่วม

4. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการซื้อสินค้า/บริการแบบผ่อนชำระ
    เว้นแต่ตกลงเป็นอย่างอื่น ข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ใช้บังคับกับผู้ถือบัตรที่ซื้อสินค้าและ/หรือชำระค่าบริการแบบผ่อนชำระ เป็นงวดๆ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่ง ของสัญญานี้
    4.1 ผู้ถือบัตรอาจใช้บัตรซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากสถานประกอบการและ/หรือร้านค้าที่ร่วมรายการ (ซึ่งต่อไปนี้ จะเรียกว่า “ร้านค้า”) แบบผ่อนชำระโดยผู้ถือบัตรตกลงที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
        (ก) สินค้าและ/หรือบริการนั้นจะต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าที่บริษัทและ/หรือร้านค้ากำหนด
        (ข) บริษัทจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการดำเนินการสำหรับสินค้าหรือบริการบางประเภท (ถ้ามี) และ/หรือค่าธรรมเนียมอื่นใดนอกเหนือจากค่าธรรมเนียมตามที่ระบุในข้อ 3. ซึ่งจะคำนวณระยะเวลาและเงื่อนไขที่ตกลงกันซึ่งเมื่อรวมกับค่าสินค้าหรือบริการแล้วจะเป็นยอดเงินทั้งหมด ที่ผู้ถือบัตรจะต้องผ่อนชำระ
        (ค) ผู้ถือบัตรตกลงผ่อนชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการเป็นรายงวดตามที่ตกลงกับบริษัทและ/หรือร้านค้า ทั้งนี้จำนวน งวดการชำระและ/หรือจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระในงวดสุดท้ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับจำนวนเงินและ ระยะเวลาในการชำระเงินในแต่ละงวดของผู้ถือบัตร
        (ง) ในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการแต่ละคราว ผู้ถือบัตรจะต้องปฏิบัติตามวิธีการใช้บัตรชำระแทนเงินสดของช่องทางการชำระเงินของร้านค้านั้น ซึ่งผู้ถือบัตรต้องลงลายมือชื่อในเอกสาร หรือบนเครื่องรับลายเซ็น (Electronic Sign Pad) หรืออุปกรณ์อื่นใดตามแบบที่บริษัทกำหนด หรือดำเนินการอย่างใดๆ ตามแบบวิธีการที่บริษัทกำหนด หรือปฏิบัติตามขั้นตอนโดยวิธีอื่นโดยไม่ต้องลงลายมือชื่อในเอกสารหรืออุปกรณ์อื่นใด เพื่อเป็นการยืนยันการซื้อสินค้า หรือใช้บริการแบบผ่อนชำระโดยการใช้สินเชื่อตามสัญญาฉบับนี้
        (จ) ผู้ถือบัตรตกลงให้บริษัทชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการให้แก่ผู้ขายสินค้าและ/หรือผู้ให้บริการแทนผู้ถือบัตรและให้ถือว่าผู้ถือบัตรได้รับเงินต้น/สินเชื่อแล้วโดยสมบูรณ์ เมื่อผู้ถือบัตรได้รับสินค้าและ/หรือบริการจากผู้ขายสินค้าและ/หรือผู้ให้บริการเรียบร้อยแล้ว หรือเมื่อบริษัทชำระค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายสินค้าและ/หรือผู้ให้บริการ (แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน) โดยให้ถือว่าหลักฐานการจ่ายเงินให้แก่ผู้ขายสินค้าและ/หรือผู้ให้บริการเป็นหลักฐานแห่งการใช้เงินสินเชื่อโดยชอบของผู้ถือบัตร
    4.2 ผู้ถือบัตรต้องปฏิบัติตามวิธีการใช้บัตรชำระแทนเงินสดตามวิธีการที่กำหนดอยู่ ณ ร้านค้านั้น หรือแสดงบัตรต่อพนักงานของร้านค้านั้น และลงลายมือชื่อในเอกสารการขายหรือการให้บริการ (Sales Slip) หรือบนเครื่องรับลายเซ็น (Electronic Sign Pad) หรืออุปกรณ์อื่นใด หรือดำเนินการอย่างใดๆ ตามแบบวิธีการที่บริษัทกำหนด เพื่อเป็นหลักฐานในการใช้บัตรแบบผ่อนชำระ แทนการชำระเงินทุกครั้ง เว้นแต่กรณีที่บริษัทหรือร้านค้ากำหนดไว้เป็นการเฉพาะว่าไม่ต้องลงลายมือชื่อในเอกสารการขายหรืออุปกรณ์อื่นใด (แล้วแต่กรณี) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม ผู้ถือบัตรยอมรับว่าเป็นการใช้บัตรชำระแทนเงินสดโดยสมบูรณ์แล้ว
    4.3 ภายใต้หลักเกณฑ์ในข้อ 3.3 ในกรณีที่ผู้ถือบัตรต้องการชำระค่างวดสินค้าที่ผ่อนชำระในคราวเดียว  ผู้ถือบัตรจะต้องติดต่อบริษัทฯ เพื่อสอบถามยอดชำระปิดบัญชีล่วงหน้า และจะต้องชำระเงินที่คงค้างทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยและ/หรือ ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสำหรับงวดผ่อนชำระที่เหลือทั้งหมด
    4.4 บริษัทไม่รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของสินค้า หรือบริการใดๆ ซึ่งผู้ถือบัตรซื้อในกรณีที่มีการเปลี่ยน หรือคืนสินค้า ผู้ถือบัตรตกลงที่จะปฏิบัติตามระเบียบและ/หรือข้อกำหนดในการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าของร้านค้าหรือสถานประกอบการนั้นๆ
    4.5 ผู้ถือบัตรอาจทำรายการผ่อนชำระสินค้า และ/หรือบริการผ่านทางโทรศัพท์ และ/หรือผ่านเว็ปไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชั่น และ/หรือผ่านทางโปรแกรมออนไลน์ที่จัดให้มีโดยบริษัทบนโทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์ใดๆ และ/หรือช่องทางอื่นๆ ที่บริษัทแจ้งให้ทราบได้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัท ทั้งนี้เว้นแต่ข้อกำหนดและเงื่อนไขในเรื่องดังกล่าวจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ผู้ถือบัตรตกลงว่าให้นำข้อกำหนดตามข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 7 ของสัญญานี้ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

5. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการและธุรกรรมทางโทรศัพท์
     5.1 ผู้ถือบัตรสามารถใช้รหัสประจำตัวของผู้ถือบัตร ซึ่งใช้กับบัตรหรือที่ได้รับแจ้งจากบริษัท หรือที่ผู้ถือบัตรได้กำหนดด้วยตนเองตามขั้นตอนที่บริษัทกำหนด หรือที่จะได้มีการเปลี่ยนแปลง ในภายหน้าในการใช้บริการอัตโนมัติทางโทรศัพท์ของบริษัท ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสัญญาว่าจะรักษารหัสดังกล่าวไว้เป็นความลับ แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น หากผู้ถือบัตรประสงค์จะเปลี่ยนรหัสดังกล่าวก็สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้บริษัททราบ
    5.2 ผู้ถือบัตรตกลงยินยอมรับผิดชอบในการกระทำใดๆ ที่ดำเนินการผ่านบริการอัตโนมัติทางโทรศัพท์โดยใช้รหัสประจำตัวของผู้ถือบัตรและ/หรือที่ได้ทำผ่านโทรศัพท์โดยการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท (ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบยืนยันข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือบัตร) รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการขอเบิกใช้เงินสดล่วงหน้า หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล โดยให้ถือว่าเมื่อได้ทำธุรกรรมหรือคำร้องขอใดๆ แล้วให้มีผลผูกพันผู้ถือบัตรโดยไม่อาจเพิกถอนได้ เว้นแต่จะทำเป็นหนังสือยืนยันการเพิกถอนธุรกรรมนั้นๆ และให้ผลแห่งการกระทำใดๆ ที่กระทำผ่านทางโทรศัพท์มีผลผูกพัน ทั้งผู้ถือบัตรหลักและบัตรเสริมทุกประการ
    5.3 ผู้ถือบัตรตกลงยอมรับว่าบรรดาคู่มือวิธีการใช้บริการอัตโนมัติทางโทรศัพท์เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการดังกล่าวทั้งที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ หรือที่จะมีต่อไป (หรือแก้ไข) ในภายหน้า ซึ่งบริษัทได้มอบหรือจัดส่งให้แก่ผู้ถือบัตร  รวมทั้งคำสั่ง คำแนะนำ คำตอบรับหรือธุรกรรมใดๆ ทางเครื่องโทรศัพท์ซึ่งผู้ถือบัตรใช้ในการดำเนินการต่างๆ นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขตามสัญญานี้ด้วย
    5.4 ผู้ถือบัตรตกลงชำระค่าธรรมเนียมการใช้บริการอัตโนมัติทางโทรศัพท์ (ถ้ามี) ตามกำหนดเวลาและอัตรา ที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมการใช้บริการอัตโนมัติทางโทรศัพท์ตามอัตราที่บริษัทกำหนดเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ผู้ถือบัตรทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน
    5.5 ผู้ถือบัตรรับทราบว่าในการทำธุรกรรมใดๆ ผ่านทางโทรศัพท์ (รวมถึง การติดต่อใดๆ กับบริษัทผ่านทางโทรศัพท์) นั้นอาจมีการบันทึกเสียงหรือบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการตรวจสอบหรือใช้เป็นหลักฐาน  โดยผู้ถือบัตรตกลงให้บริษัทสามารถบันทึกเสียงและข้อมูลดังกล่าวได้ และสามารถให้ใช้บันทึกดังกล่าวเป็นหลักฐานอ้างอิงในการทำธุรกรรมใดๆ ระหว่างบริษัทกับผู้ถือบัตร

6. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บัตรกับเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM)
    6.1 ผู้ถือบัตรสามารถนำบัตรไปใช้บริการต่างๆ ผ่านเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ของธนาคารพาณิชย์ ทั้งในและต่างประเทศตามแต่คุณสมบัติของแต่ละประเภทบัตรที่บริษัทกำหนด ผู้ถือบัตรต้องใช้รหัสประจำตัว (PIN) ที่ผู้ถือบัตรกำหนดด้วยตนเองตามขั้นตอนของบริษัท (หรือที่ผู้ถือบัตรจะได้เปลี่ยนแปลงในภายหลังเอง) ประกอบการใช้บัตรผ่านเครื่อง ฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ทุกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรสัญญาว่าจะรักษารหัสดังกล่าวไว้เป็นความลับแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น หากผู้ถือบัตรประสงค์จะเปลี่ยนรหัสดังกล่าวก็สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้บริษัททราบ
    6.2 ผู้ถือบัตรจะใช้บัตรทำรายการต่างๆ ได้ไม่เกินจำนวนครั้งและจำนวนเงินที่บริษัทกำหนดและกรณีการใช้บริการ ผ่านเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) หากผู้ถือบัตรกดรหัสผิดเกินกว่าจำนวนที่ผู้ให้บริการเครื่องฝาก-ถอนเงิน อัตโนมัติ (ATM) แต่ละรายกำหนด ผู้ถือบัตรจะไม่สามารถทำรายการใดๆ ผ่านบัตรได้อีกจนกว่าผู้ถือบัตรติดต่อกับบริษัท
    6.3 ในการใช้บัตรเพื่อเบิกเงินสด ผู้ถือบัตรตกลงยอมผูกพันตามข้อกำหนด และเงื่อนไขต่างๆ ตามสัญญานี้ และให้ถือว่า (1) ใบบันทึกรายการดังกล่าว และ/หรือ (2) ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารเจ้าของ เครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) เป็นหลักฐานการได้รับเงินของผู้ถือบัตรตามสัญญาฉบับนี้แล้ว
    6.4 ในการทำธุรกรรมผ่านเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) อาจจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บริการ โดยสถาบันการเงินผู้ให้บริการเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดังนั้นผู้ถือบัตรควรศึกษารายละเอียดค่าธรรมเนียมดังกล่าวก่อนทำรายการ โดยบริษัทจะถือว่าในการทำรายการของผู้ถือบัตรนั้น ผู้ถือบัตรตกลงและรับทราบในค่าธรรมเนียมดังกล่าวและผู้ถือบัตรตกลงยินยอมชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวกับการใช้บริการผ่านเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) และตกลงยินยอมให้บริษัทหักเงินจากบัตรเครดิตของผู้ถือบัตร ได้ตามอัตราและกำหนดเวลาที่บริษัทกำหนด

7. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการทำธุรกรรมและ/หรือการใช้บริการผ่านทางเว็ปไซต์ของบริษัท หรือแอปพลิเคชั่นหรือ ผ่านทางโปรแกรมออนไลน์ที่จัดให้มีโดยบริษัทบนโทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์ใดๆ
    7.1 ผู้ถือบัตรสามารถใช้บริการบางประเภทผ่านทางเว็ปไซต์ หรือโปรแกรมของบริษัท หรือแอปพลิเคชั่นหรือ ผ่านทางโปรแกรมออนไลน์ที่จัดให้มีโดยบริษัทบนโทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์ใดๆ หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทจัดทำขึ้น (ตามที่มีให้บริการอยู่ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง) ได้โดยทำการลงทะเบียน ผ่านทางเว็ปไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น หรือ โปรแกรมของบริษัท หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทจัดทำขึ้น โดยผู้ถือบัตรจะต้องใช้รหัสประจำตัวที่ได้รับจากการลงทะเบียน (หรือที่ผู้ถือบัตรเป็นผู้กำหนด) ในการทำธุรกรรมหรือใช้บริการต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือแอปพลิเคชั่น และ/หรือบนโปรแกรม และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทจัดทำขึ้นดังกล่าว
    7.2 ผู้ถือบัตรรับทราบว่าในการทำธุรกรรมและ/หรือใช้บริการใดๆ ผ่านทางเว็ปไซต์ของบริษัท และ/หรือแอปพลิเคชั่น และ/หรือบนโปรแกรมและ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทจัดทำขึ้น ผู้ถือบัตรตกลงยอมรับและจะปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆที่เกี่ยวกับการใช้เว็ปไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชั่น และ/หรือบนโปรแกรมดังกล่าวทุกประการและให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวมีผลผูกพันผู้ถือบัตรตามสัญญาฉบับนี้แล้วโดยไม่จำเป็น ต้องทำเป็นเอกสารลงลายมือชื่อของผู้ถือบัตรอีก
    7.3 ผู้ถือบัตรรับทราบว่าในการทำธุรกรรมและ/หรือใช้บริการใดๆ ผ่านทางเว็ปไซต์ของบริษัท และ/หรือแอปพลิเคชั่น และ/หรือบนโปรแกรมและ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทจัดทำขึ้นนั้น อาจมีการบันทึกข้อมูลการทำธุรกรรมดังกล่าวเพื่อใช้ในการตรวจสอบและสามารถให้ใช้บันทึกดังกล่าวเป็นหลักฐานอ้างอิงในการทำธุรกรรมใดๆ ระหว่างบริษัทกับผู้ถือบัตรโดยไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถือบัตรอีก

8. ข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับคะแนนสะสมและการแลกของรางวัล
    8.1 ผู้ถือบัตรตกลงและรับทราบว่าบริษัทอาจจัดให้มีรายการคะแนนสะสม หรือรายการผลประโยชน์เป็นครั้งคราว อันเนื่องมาจากการใช้บัตรของผู้ถือบัตรตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของรายการนั้นๆ ตามที่บริษัทจะได้แจ้งให้ผู้ถือบัตรทราบ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรตกลงผูกพันตามข้อกำหนดต่างๆ ดังกล่าวที่เกี่ยวข้องและให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ โดยผู้ถือบัตรหลักรับทราบว่าคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตจะสามารถใช้ได้เมื่อเป็นสมาชิกมายโลตัสแล้วเท่านั้น
    8.2 ผู้ถือบัตรตกลงว่าบรรดาสิทธิประโยชน์และ/หรือสิทธิพิเศษใดๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสิทธิพิเศษจากรายการส่งเสดริมการขายรายการ คะแนนสะสม หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่บริษัทจะจัดให้กับผู้ถือบัตรนั้นนอกเหนือจากที่ได้มีการระบุไว้ในเงื่อนไขของ รายการนั้นๆ ผู้ถือบัตรตกลงว่าบริษัทมีสิทธิที่จะมอบสิทธิประโยชน์และ/หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ดังกล่าวให้กับผู้ถือบัตรที่ปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไข (หากมี) เว้นแต่กรณีที่บัญชีของผู้ถือบัตรถูกระงับหรือยกเลิก (ไม่ว่าชั่วคราวหรือถาวร) หรือผู้ถือบัตรมีประวัติการชำระเงินไม่ดี หรือมีการใช้บัตรเพื่อการพาณิชย์หรือเพื่อการใดๆ อันผิดวัตถุประสงค์การใช้บัตรเครดิต ผิดกฎหมายหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการชำระเงินเข้าบัญชีบัตรเกินกว่ายอดที่ต้องชำระโดยมีเจตนาที่จะรับสิทธิประโยชน์และ/หรือสิทธิพิเศษซึ่งมากกว่าที่ควรได้รับจากการใช้บัตรภายในวงเงินที่บริษัทอนุมัติ หรือกรณีที่ผู้ถือบัตรกระทำผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขใดๆ ตามสัญญานี้ สัญญาฉบับนี้อยู่ภายใต้บังคับและตีความตามกฎหมายของประเทศไทย ในกรณีที่มีการจัดทำขึ้นทั้งฉบับภาษาไทย และฉบับภาษาอังกฤษ หากมีข้อความขัดแย้งกันให้ใช้สัญญาฉบับภาษาไทยเป็นหลักในการบังคับใช้และตีความ
เงื่อนไขประกันภัยคุ้มครองการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ pindown pinup

• สงวนสิทธิ์การรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว จากการซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิตโลตัส รับความคุ้มครองสูงสุด 20,000 บาท ต่อปี เมื่อซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และชำระค่าสินค้าผ่านระบบการชำระเงินทางอินเตอร์เน็ต ด้วยบัตรเครดิตโลตัส ตั้งแต่ 1 ม.ค. 67 – 31 ธ.ค. 67

• กรณีถูกโกงจากการซื้อสินค้าออนไลน์

• กรณีถูกลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ในระหว่างการจัดส่ง

• กรณีเกิดอุบัติเหตุทำให้สินทรัพย์สูญเสียหรือเสียหาย ในระหว่างการจัดส่ง

• มูลค่าสินค้าที่ชำระขั้นต่ำด้วยบัตรเครดิต 2,500 บาท/เซลล์สลิป

• วงเงินคุ้มครอง/ครั้ง/เหตุการณ์ 10,000 บาท

• วงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท ตลอดอายุสัญญา (1 ปีปฏิทิน)

• ชื่อผู้เอาประกันภัยจะต้องตรงกับชื่อผู้ถือบัตรเครดิตโลตัส ที่ทำรายการชำระสินค้าผ่านเว็บไซต์เท่านั้น

• การชดเชยสินไหม และเงื่อนไขความคุ้มครอง เป็นไปตามกรมธรรม์ประกันภัยที่คุ้มครองโดยบริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อศูนย์บริการลูกค้า เอ็ม เอส ไอ จี โทร. 0 2007 9000

• ศูนย์บริการเคลมฮอตไลน์ 24 ชั่วโมง โทร. 1259

• บริษัทบัตรฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ หากมีข้อสงสัยกรุณาติดต่อผู้ให้บริการโดยตรงเท่านั้น

ศึกษารายละเอียด ความคุ้มครอง และวิธีการให้บริการด้านสินไหมทดแทน คลิก

aaa

โปรโมชันที่เกี่ยวข้อง

บัตรเครดิต ช้อป 6 หมวด ห้างสรรพสินค้า  เสื้อผ้า เครื่องสำอาง มือถือ
บัตรเครดิตโลตัส ช้อป 6 หมวด รับเครดิตเงินคืน
จะรูดช้อปที่ร้าน หรือช้อปทางออนไลน์ของร้านค้า ก็สะสมรวมได้
01/09/67 - 31/12/67
บัตรเครดิต ช้อปที่โลตัส รับความคุ้มคืนรวมสูงสุด 800 บาท*
ช้อปที่โลตัส ด้วยบัตรเครดิตโลตัส

รับความคุ้มคืนสูงสุด3,300 บาท*

01/09/67 - 30/11/67
บัตรเครดิต สุขภาพความงาม โรงพยาบาล คลินิก สปา รูดช้อปสินค้าหรือบริการ รับเครดิตเงินคืนรวมตลอดรายการสูงสุด 44,000 บาท* HLT3
สุขภาพความงาม โรงพยาบาล คลินิก สปา
รับเครดิตเงินคืนรวมตลอดรายการสูงสุด 16,000 บาท*
01/11/67 - 28/02/68
ย้อนกลับ
ถัดไป