เคล็ดลับ ใช้บัตรเครดิตให้ไม่เสียค่าดอกเบี้ยให้เปลืองเงิน


รู้หรือยัง? ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คืออะไร
บัตรเครดิต คือ ตัวช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้เจ้าของบัตรมีเงินสำรองไว้ใช้ในเวลาฉุกเฉิน แต่หากผู้ถือบัตรเครดิตใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวังขาดการวางแผนที่รอบคอบ คุณอาจต้องพบกับ ‘ดอกเบี้ยบัตรเครดิต’ ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คือ อัตราดอกเบี้ยค่าบริการที่ธนาคารพาณิชย์ หรือ ธุรกิจนอกเหนือจากสถาบันการเงิน ได้เรียกเก็บจากลูกค้าโดยมีการคำนวณดอกเบี้ยจากยอดค่าใช้จ่ายจริงที่ผู้ถือบัตรได้ใช้ไป แม้ว่าปัจจุบันมนุษย์วัยทำงาน ทั้งพนักงานประจำและอาชีพอื่น ๆ เข้าถึงการใช้บัตรเครดิตมากขึ้น แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เข้าใจความเป็นมาของดอกเบี้ยบัตรเครดิต ส่งผลให้ผู้ใช้หลายราย เผลอสร้างดอกเบี้ยบัตรเครดิตอย่างไม่รู้ตัว
ทั้งนี้มีข้อมูลที่สำคัญต่อการทำความเข้าใจดอกเบี้ยบัตรเครดิต คือบัตรเครดิตทุกใบจะมี ‘ระยะปลอดหนี้’ ซึ่งเป็นบริการที่ธนาคารยืดหยุ่นระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยจากเจ้าของบัตรที่มีประวัติ ‘ชำระบัตรเครดิตเต็มจำนวนตามกำหนด’ เป็นบริการที่ธนาคารจะไม่คิดดอกเบี้ยกับลูกค้าประวัติดีที่มีเหตุสุดวิสัยทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าบัตรเครดิตตามกำหนด ซึ่งระยะปลอดหนี้จะยังอยู่กับผู้ใช้ที่ชำระบัตรเครดิตเต็มจำนวนตามกำหนดตลอดไป แต่ถ้าวันใด…คุณเลือกชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำ สิทธิ์ในระยะปลอดหนี้นั้นก็จะถูกยกเลิกไปอัตโนมัติ

เช็กด่วน !! ดอกเบี้ยบัตรเครดิตมาจากอะไร?
เมื่อคุณพ้นระยะปลอดหนี้จากการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยกับเจ้าของบัตรด้วยปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ที่ 16% ต่อปี (รายละเอียดตามธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต) สาเหตุที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต ดังนี้
1. จ่ายค่าบัตรเครดิตขั้นต่ำ แต่จ่ายตามวันที่กำหนด เช่น รอบบิลเดือนเมษายน มียอดชำระบัตรเครดิตเต็มจำนวน 10,000 บาท โดยมียอดชำระขั้นต่ำ 1,000 บาท และครบกำหนดชำระวันที่ 1 พฤษภาคม แต่ เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระ คุณเลือกชำระค่าบัตรเครดิตขั้นต่ำ 1,000 บาททำให้เหลือค่าบัตรเครดิตที่ยังไม่จ่ายอีก 9,000 บาท ตัวอย่างนี้เรียกว่า ‘การจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำตามกำหนด’ เมื่อคุณไม่ชำระเต็มจำนวน ธนาคารจะนำเงินส่วนที่คุณยังไม่จ่ายไปคำนวณค่าดอกเบี้ย โดยคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ ‘วันที่รูดบัตร’ ไม่ใช่คำนวณดอกเบี้ยจากวันที่ครบกำหนดชำระ
2. ไม่จ่ายค่าบัตรเครดิตตามกำหนด แต่จ่ายเต็มจำนวน หรือ ขั้นต่ำ เช่น รอบบิลเดือนเมษายน ครบกำหนดชำระวันที่ 1 พฤษภาคม มียอดชำระบัตรเครดิตเต็มจำนวน 10,000 บาทและยอดชำระขั้นต่ำ 1,000 บาท แต่ เมื่อถึงวันที่ 1 พฤษภาคม (ครบกำหนดชำระ) คุณไม่สามารถจ่ายได้ภายในวันนั้นธนาคารจะคิดดอกเบี้ยตาม ‘จำนวนวัน’ ที่จ่ายช้ากว่ากำหนด ในกรณี (1.) จ่ายบัตรเครดิตช้าแต่ชำระเต็มจำนวน เมื่อถึงวันที่คุณจ่ายย้อนหลัง ธนาคารจะสิ้นสุดการคิดดอกเบี้ย แต่ถ้า (2.) จ่ายบัตรเครดิตช้าและชำระขั้นต่ำ เมื่อถึงวันที่คุณจ่ายย้อนหลัง ดอกเบี้ยจะสิ้นสุดแค่ในส่วนของการจ่ายช้า แต่ยอดที่เหลือจากการจ่ายบัตรขั้นต่ำจะยังถูกคิดดอกเบี้ยต่อไป
*จ่ายบัตรเครดิตช้า* มีค่าธรรมเนียมทวงหนี้จากธนาคารผู้ให้บริการบัตรเครดิตประมาณ 100 บาท (แตกต่างตามธนาคาร) และเมื่อชำระค่าบัตรเครดิตช้ามากกว่า 90 วันขึ้นไป ค่าชำระบัตรเครดิตจำนวนนี้จะกลายเป็นหนี้เสียและทำให้เจ้าของบัตรติดเครดิตบูโรโดยอัตโนมัติ
3. เบิกถอนเงินสดจากวงเงินในบัตรเครดิต ปัจจุบันบัตรเครดิตเกือบทุกใบ มีบริการเบิกถอนเงินสดเพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของบัตรเครดิตที่ต้องการใช้เงินสดในกรณีฉุกเฉิน แต่การเบิกถอนเงินสดทุกครั้งจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 3% (คำนวณจากจำนวนเงินสดที่เบิกถอน) และคิดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่เบิกถอน ทำให้การเบิกถอนเงินสดแต่ละครั้งจะมีค่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่เสี่ยงต่อการก่อหนี้ระยะยาว

เคล็ดลับใช้บัตรเครดิตไม่ให้เสียค่าดอกเบี้ย
แม้ว่าบัตรเครดิตจะสามารถอำนวยความสะดวกได้มากเท่าใด แต่เจ้าของบัตรจำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เราจึงอยากแนะนำเทคนิคการใช้บัตรเครดิตไม่ให้เสียค่าดอกเบี้ย ดังนี้
1. วางแผนงบให้จ่ายบัตรเครดิตเต็มจำนวนตามกำหนด
- บัตรเครดิตทุกใบจะมีวงเงินที่กำหนดให้เจ้าของบัตรใช้จ่ายได้ตามจำนวน ถ้าไม่อยากเสียค่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต ในทุกเดือน เราแนะนำให้คุณตั้งงบการเงินสำหรับใช้บัตรเครดิตโดยเฉพาะ เลือกซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็น เพื่อให้คุณมีเงินสดหรือเงินสำรองเพียงพอที่จะสามารถจ่ายค่าบัตรเครดิตเต็มจำนวนและตรงตามกำหนดได้นั่นเอง
2. วางแผนบริหารเงินไม่ให้เบิกถอนเงินสดในบัตรเครดิต
- หากคุณวางแผนการเงินไม่รัดกุมอาจทำให้มีเงินสดไม่เพียงพอที่จะใช้ในเวลาฉุกเฉิน ดังนั้น ควรวางแผนบริหารค่าใช้จ่ายให้มีเงินสดสำรอง เพื่อหลีกเลี่ยงการเบิกถอนเงินสดในบัตรเครดิตที่มีการคิดค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียม 3% ของจำนวนเงินสดที่เบิกถอน (เงื่อนไขตามธนาคารผู้ให้บริการบัตรเครดิต)
3. วางแผนเลือกใช้จ่ายสินค้าและบริการที่ผ่อนดอกเบี้ย 0%
- ความน่าสนใจของบัตรเครดิต คือ ธนาคารผู้ให้บริการจะร่วมมือกับธุรกิจต่าง ๆ ออกโปรโมชันกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เช่น การผ่อนสินค้าและบริการด้วยดอกเบี้ย 0% ทำให้คุณไม่ต้องควักเงินก้อนจำนวนมาก มาจ่ายค่าสินค้าในงวดเดียว ช่วยให้มีเงินสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นก่อนจะซื้ออะไร เจ้าของบัตรเครดิตควรตรวจสอบโปรโมชันให้รอบคอบเพื่อปกป้องสิทธิ์ที่เราควรจะได้
บัตรเครดิตโลตัส ผ่อนง่าย! จ่ายสบาย! ดอกเบี้ย 0%*
อยากวางแผนการเงินให้ดี ต้องเลือกบัตรเครดิตที่โลตัส มันนี่ พลัส เพราะเรามีโปรโมชันผ่อนชำระสินค้าและบริการดอกเบี้ย 0% คุ้มค่าทุกการใช้จ่ายด้วยโปรโมชันที่ตอบโจทย์และเข้าถึงลูกค้าได้ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ ใช้บัตรเครดิตโลตัส ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่โลตัส ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน* รวมถึงบัตรเครดิตโลตัส ผ่อนประกันภัย ก็คุ้มด้วยดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน* (ผู้ซื้อประกันควรศึกษาและทำความเข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัย ที่เคาน์เตอร์โลตัส มันนี่ พลัส หรือ Call center 02-627-8888 และตรวจสอบเงื่อนไขก่อนใช้โปรโมชันบัตรเครดิต)
บัตรเครดิตโลตัส แพลทินัม บียอนด์ รับความคุ้มคืนสูงสุด 5%* ที่โลตัส
- รับความคุ้มคืนสูงสุด 5%* จากยอดใช้จ่ายที่โลตัสทุกสาขา และโลตัส ช้อปออนไลน์
- ผ่อนง่ายสบายๆ 0%*
- รับเครดิตเงินคืน 3%* เมื่อเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจากรวมถึงปั๊มเอสโซ่ (เดิม) กว่า 2,000 สาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศไทย 24 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67
- รับความคุ้มคืน 0.5%* (ยอดใช้จ่ายทุกๆ 20 บาทต่อรายการ ได้รับคะแนนสะสมโลตัส รีวอร์ดส 1 คะแนน)
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
- เงื่อนไขการสมัครง่าย อนุมัติไว
อ่านรายละเอียดและเงื่อนไขการใช้บัตรเครดิต https://www.lotussmoney.com/credit-card/platinum-beyond
ใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี โดยสมัครบัตรเครดิตโลตัส ด้วยแอปพลิเคชัน UCHOOSE เพื่อเข้าร่วมโปรโมชั่น สะดวก ง่าย และปลอดภัย ทั้งยังสามารถเช็กสถานะการสมัครได้ทุกขั้นตอน รวมถึงการปรับเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตได้ด้วย ที่สำคัญได้รับโปรโมชันบัตรเครดิต สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม จากโลตัส มันนี่ พลัส ก่อนใคร