facebook messenger

ประกันลดหย่อนภาษีช่วยเราเซฟเงินได้แค่ไหน และจะซื้ออย่างไรให้คุ้ม ? ในยุคที่การเงินต้อง ‘รัดเข็มขัด’

ปัจจุบันด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น เงินเฟ้อ ทำให้เราต้อง ‘รัดเข็มขัด’ การเงินกันมากขึ้น โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลสำคัญ ที่ทุกคนกำลังมองหาตัวช่วยต่าง ๆ ในการลดหย่อนภาษี ในวันนี้ aomMONEY จึงอยากชวนทุกคนให้รู้จักกับการซื้อ ‘ประกันลดหย่อนภาษี’ ที่ไม่ได้แค่ทำให้เรามีเงินเหลือเก็บเยอะขึ้น แต่ยังช่วยให้เพิ่มความมั่นคงในชีวิตอีกด้วย
 
โดยประกันลดหย่อนภาษี ที่ aomMONEY จะขอมาเล่าให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกันในวันนี้ คือ ประกันชีวิต และประกันสุขภาพ ในปัจจุบันการซื้อประกันลดหย่อนภาษี สามารถทำได้หลายช่องทาง แต่ในวันนี้ aomMONEY มีวิธีการซื้อประกันทั้งสองให้คุ้มค่ามากกว่าเดิมมากระซิบบอกกัน นั่นคือการรูดซื้อผ่าน ‘บัตรเครดิตโลตัส’ แต่ทำไมจึงคุ้มค่ากว่า ? มาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย!

เปิดตาราง ‘รูปแบบการลดหย่อนภาษี’ เราสามารถทำอย่างไรได้บ้าง ?

ก่อนจะไปดูเรื่องประกันลดหย่อนภาษี เรามาดูกันก่อนว่า ช่องทางการลดหย่อนภาษี นั้นมีอะไรบ้าง โดย aomMONEY ได้ทำตารางสรุปมาให้แบบนี้ครับ

1. สิทธิลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว

ค่าลดหย่อน

เงินภาษีที่ลดหย่อนได้

ค่าลดหย่อนส่วนตัว

60,000 บาท

ค่าลดหย่อนคู่สมรส

60,000 บาท

ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร

ไม่เกิน 60,000 บาท

ค่าลดหย่อนภาษีบุตร

- บุตรตามกฎหมาย: ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท ไม่จำกัดคน
- บุตรบุญธรรม คนละ 30,000 บาท สูงสุด 3 คน
- บุตรคนที่ 2 ขึ้นไป ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป ลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
- บุตรอายุไม่เกิน 20 ปี
- บุตรที่อายุ 20 - 25 แต่กำลังศึกษาอยู่
- บุตรอายุเกินเกณฑ์ แต่จัดเป็น ‘บุคคลไร้ความสามารถ’

ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดามารดาของตนเองและของคู่สมรส

- บิดามารดาของตนเอง: ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท
- บิดามารดาของคู่สมรส: ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท

ค่าลดหย่อนภาษีกรณีอุปการะผู้พิการหรือบุคคลทุพพลภาพ

ลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท

2. สิทธิลดหย่อนจากเงินบริจาค

ค่าลดหย่อน

เงินภาษีที่ลดหย่อนได้

เงินบริจาคทั่วไป

สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อนภาษี

เงินบริจาคเพื่อการศึกษา พัฒนาสังคม และประโยชน์สาธารณะ

ลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อนภาษี

เงินบริจาคพรรคการเมือง

ไม่เกิน 10,000 บาท

3. สิทธิลดหย่อนจากการออม และลงทุน

ค่าลดหย่อน

เงินภาษีที่ลดหย่อนได้

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่เมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ แล้วต้องไม่ -เกิน 500,000 บาท

กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)

ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท แต่เมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท (5 ปี)

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) / กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.)
/ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน

15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่เมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท

 
 
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท แต่เมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท

เงินลงทุนธุรกิจ Social Enterprise (วิสาหกิจเพื่อสังคม)

ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

4. สิทธิลดหย่อนจากเบี้ยประกัน

ค่าลดหย่อน

เงินภาษีที่ลดหย่อนได้

เงินประกันสังคม

ไม่เกิน 7,200 บาท หรือตามจำนวนเงินสมทบจริง

ประกันชีวิตแบบทั่วไป / แบบสะสมทรัพย์

ไม่เกิน 100,000 บาทตามจำนวนที่จ่ายจริง

ประกันชีวิตแบบบำนาญ

สูงสุดที่ 15% ของรายได้ แต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท และรวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไปได้ (สูงสุดเมื่อรวมที่ 300,000 บาท)

ประกันสุขภาพ

- ซื้อให้ตัวเอง: ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี

- ซื้อให้พ่อแม่: ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี

5. สิทธิลดหย่อนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ค่าลดหย่อน

เงินภาษีที่ลดหย่อนได้

ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย

ไม่เกิน 100,000 บาท

6. สิทธิลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

 

ซื้อประกันลดหย่อนภาษี ด้วย ‘ประกันชีวิต’ เซฟเงินให้เราได้มากแค่ไหน ?

สำหรับประกันลดหย่อนภาษีประเภทนี้ จะแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ ประกันชีวิตแบบทั่วไป และประกันชีวิตแบบบำนาญ โดยอาจนับเป็นหนึ่งใน ‘สิทธิลดหย่อนจากเบี้ยประกัน’ ได้เช่นกัน

ประกันชีวิตแบบ ‘ทั่วไป’ และประกันชีวิตแบบ สะสมทรัพย์

สามารถลดหย่อนภาษีให้เราได้สูงสุดถึง 100,000 บาทตามจำนวนที่จ่ายจริง และเมื่อรวมกับเงินฝากแบบมีประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นประกันที่คุ้มครองนานกว่า 10 ปีขึ้นไป และต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้นครับ

ประกันชีวิตแบบ ‘บำนาญ’

ประกันประเภทนี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดที่ 15% ของรายได้ แต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท และสามารถนำไปรวมกับประกันชีวิตแบบทั่วไปได้ ทำให้เราสามารถลดหย่อนได้สูงถึง 300,000 บาทเลยทีเดียว เมื่อรวมกับ RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ,กบข. ,กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาทครับ

ประกันลดหย่อนภาษี อย่าง ‘ประกันสุขภาพ’ ช่วยเราเก็บเงินได้มากแค่ไหน ?

โดยประกันลดหย่อนภาษี ประเภท ‘ประกันสุขภาพ’ นั้นมีอยู่หลายแบบที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยโรคร้ายแรง ประกันภัยการดูแลระยะยาว รวมไปถึงประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพ เป็นต้น แต่ประกันลดหย่อนภาษีประเภทนี้ จะมีความแตกต่างของจำนวนเงินที่ลดหย่อนได้ จาก 2 กรณี คือ

ประกันสุขภาพที่เราซื้อให้ ‘ตัวเอง’

โดยประกันสุขภาพที่เข้าข่ายเงื่อนไข สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในอดีตที่ลดหย่อนได้เพียง 15,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับประกันชีวิต และประกันแบบสะสมทรัพย์ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท

ประกันสุขภาพที่เราซื้อให้ ‘พ่อแม่’

สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาทต่อปี และหากมีพี่น้อง ต้องนำ 15,000 บาทนี้ไปหารเฉลี่ยเป็นค่าลดหย่อนที่เท่ากันทุกคน และบิดามารดาต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่จำเป็นต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
เห็นตัวเลขการลดหย่อนแบบนี้แล้ว จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมการซื้อประกันลดหย่อนภาษี อย่างประกันชีวิต และประกันสุขภาพจึงเป็นที่นิยมกันมาก เพราะช่วยเพิ่มทั้งเงินในกระเป๋า และความมั่นคงในชีวิตไปพร้อมกัน

ซื้อประกันลดหย่อนภาษี ให้คุ้มค่ากว่าเดิม ด้วย ‘บัตรเครดิตโลตัส’

แต่ตอนนี้เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงอยากทราบแล้วว่า การซื้อประกันลดหย่อนภาษี ด้วย ‘บัตรเครดิตโลตัส’ นั้นคุ้มค่ากว่าอย่างไร aomMONEY ขออธิบายแบบนี้ครับ

สำหรับ ‘บัตรเครดิตโลตัส’ คือบัตรที่ทำให้เราสามารถรูดซื้อประกัน หรือ จ่ายเบี้ยประกัน ได้อย่างยืดหยุ่น เพราะเราสามารถ ‘ผ่อนชำระ’ ได้ ซึ่งทำให้เราวางแผนบริหารการเงินของเราในระยะยาวได้อย่างไม่มีสะดุด นอกจากนี้ เมื่อเรารูดซื้อประกันลดหย่อนภาษี หรือ จ่ายเบี้ยประกันรายปีผ่านบัตรเครดิตโลตัส ยังได้รับเครดิตเงินคืน (Cashback) เพิ่มเติมด้วย เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของบัตรใบนี้เลยทีเดียว เพราะทำให้เรามีเงินเหลือมากขึ้นโดยไม่เสียอะไรเลยนั่นเอง และในตอนนี้ทาง โลตัส มันนี่ พลัส ก็มีโปรโมชันของบัตรเครดิตโลตัสมาแนะนำกัน คลิกเลย ตามนี้เลยครับ

 

จะเห็นได้ว่าการซื้อประกันลดหย่อนภาษี อย่าง ประกันชีวิต และประกันสุขภาพ ไม่เพียงแต่เพิ่มเงินในกระเป๋าของเรา แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในชีวิตให้เราอีกด้วย หรือเป็น ‘การออมเงินเพื่ออนาคต’ นั่นเอง นอกจากนี้การที่เราสามารถซื้อประกันได้อย่างยืดหยุ่นกว่าเดิม ทั้งสามารถผ่อนได้ และได้รับเงินคืนอีกต่างหาก เรียกได้ว่ายิ่งทำให้การวางแผนทางการเงินของเราคุ้มค่ามากขึ้น

ประกันลดหย่อนภาษี

แชร์บทความนี้ Facebook Facebook Messenger Line E-mail Twitter Printer https://www.lotussmoney.com/content/credit-card/insurance-and-tax คัดลอกลิงก์ copy

ประเภท:บัตรเครดิต
Tag: