รู้ได้อย่างไร เมื่อไรควรเปลี่ยนประกันรถยนต์
คนมีรถหลายคนคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะมือใหม่หัดซื้อที่เพิ่งมีรถคันแรก หรือเพิ่งมีกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ตั้งคำถามว่า รู้ได้อย่างไร? เมื่อไรควรเปลี่ยนประกันรถยนต์ และสับสนว่าการต่อประกันปีต่อไป เราควรเลือกต่อประกันกับบริษัทเดิมหรือเปลี่ยนใจไปซบเจ้าใหม่ดี หรือบางคนก็ความกังวลว่าประวัติการเคลมในประกันฉบับเก่าจะส่งผลอะไรต่อการต่อประกันฉบับใหม่หรอไม่ วันนี้เราจึงมัดรวมทุกคำถาม ขมวดทุกปมที่เจ้าของรถทุกคนควรรู้ก่อนตัดสินใจต่อประกันภัยรถยนต์ในปีถัดไป
เมื่อไรควรต่อประกันรถยนต์
ปกติแล้วประกันรถยนต์จะมีอายุกรมธรรม์อยู่ที่ 1 ปี เจ้าของรถสามารถเลือกวันที่ต้องการต่อประกันได้ตามสะดวก เพราะถึงแม้จะต่ออายุหลังสิ้นสุดสัญญาจากกรมธรรม์ฉบับเก่าก็ไม่มีค่าปรับใดๆจากบริษัทประกัน แต่การวางแผนต่อประกันรถยนต์ที่คนรักรถมักปักหมุดไว้ก่อนที่ประกันเก่าจะสิ้นอายุ มีตั้งแต่ 6 เดือน / 3 เดือน / 1 เดือน แม้ว่าจะเลือกต่อประกันตอนไหนก็ได้ แต่เราก็อยากให้เจ้าของรถ พิจารณาข้อเสนอรวมถึงโปรโมชั่นประกันรถยนต์ที่บริษัทผู้ให้บริการจะขนส่วนลดและสิทธิพิเศษมาเอาใจคนมีรถอย่างเต็มที่ การวางแผนต่อประกันรถยนต์จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณลืมและโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุในช่วงที่เราขาดประกันอยู่พอดี ซึ่งคนมีรถคงเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ค่าเสียหายจากอุบัติเหตุโดยไร้ประกันคุ้มครองนั้นมีมูลค่าความเสียหายมากมายเพียงใด
หากยังไม่เห็นภาพ เราขอนำข้อดี - ข้อเสียของการเลือกต่อประกันรถยนต์ในแต่ละช่วงเวลา มาให้คนรักรถที่อ่านบทความนี้ได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
เลือกต่อประกันล่วงหน้า 1 เดือน
- ข้อดี หากต่อที่เดิมจะได้ทราบถึงราคาที่แท้จริงล่าสุด เพราะบริษัทจะมีข้อมูลประวัติการเคลมสินไหมของลูกค้าอยู่ ณ ปัจจุบันจริงๆ ทำให้เลือกปุ๊ปซื้อปั๊ป หมดกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบที่ไม่มีประกันคุ้มครอง เหมาะสำหรับมือใหม่หัดซื้อหรือผู้ที่เผลอลืมจัดการเรื่องประกันรถยนต์ แม้จะกระชั้นชิดแต่คุณก็สามารถเลือกซื้อแผนประกันได้ตามปกติ และยังไม่ต้องเสียเวลานั่งคิดมากเรื่องโปรโมชั่น สิทธิประโยชน์ต่างๆ เพราะเมื่อจัดการต่อประกันเสร็จคุณก็จะได้รับการคุ้มครองทันที
- ข้อเสีย ระยะเวลาที่มีไม่มากอาจกระทบกระเป๋าสตางค์ของคุณอยู่บ้าง เพราะต้องควักเงินจ่ายค่าเบี้ยให้บริษัทผู้ให้บริการประกันรถยนต์เต็มราคา เพราะไม่มีช่วงเวลาในการทยอยส่งจ่าย แต่สามารถแก้ไขด้วยการชำระผ่านบัตรเครดิตและทำการผ่อนจ่ายได้ตามโปรโมชั่นของบัตรเครดิตแต่ละใบ
เลือกต่อประกันล่วงหน้า 3 เดือน
- ข้อดี การวางแผนเลือกต่อประกันรถยนต์ก่อนที่กรมธรรม์จะหมดในอีก 3 เดือนถือเป็นเวลาที่พอเหมาะพอเจาะเลยทีเดียว คุณจะมีเวลาเช็กสภาพรถและประวัติการเคลมประกัน พร้อมพิจารณาโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพื่อให้คุณได้รับสิทธิพิเศษจากประกันรถยนต์ฉบับใหม่อย่างคุ้มค่า
- ข้อเสีย หากแจ้งล่วงหน้าไปประมาณ 3 เดือน กรณีประกันภัยเดิมยังไม่หมดอายุ แล้วมีการแจ้งอุบัติเหตุเพิ่มเติม อาจจะส่งผลให้บริษัทประกันภัยเรียกเก็บค่าเบี้ยเพื่มเติมจากข้อตกลงแรกได้ กรณีมูลค่าเคลมสูงมากๆ
เลือกต่อประกันล่วงหน้า 6 เดือน
- ข้อดี ประกันรถยนต์ที่มีสัญญาปีต่อปี หากต่อประกันตอนครึ่งปีอาจดูเป็นเรื่องที่ยาวนานเกินไป แต่การจัดการกรมธรรม์ในระยะเวลาประมาณนี้ ช่วยทำให้คุณวางแผนการเงินง่ายขึ้นและมีเวลาในการทยอยจ่ายค่างวดประกันรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก
- ข้อเสีย คุณอาจพลาดโปรโมชั่นที่ผู้ให้บริการประกันรถยนต์ที่บริษัทต่างๆจะทยอยออกมาช่วง 6 เดือนก่อนประกันของคุณจะหมดลง
To Do List เช็กก่อนต่อประกันรถยนต์
1. เช็ก : วันที่ประกันรถยนต์สิ้นสุดสัญญา
ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าวัน/เดือน/ปีที่ประกันรถยนต์หมดคือวันไหน รวมถึงเช็กภารกิจส่วนตัว ทั้งเรื่องงาน เรื่องครอบครัว รวมถึงแพลนต่างๆที่อาจกระทบต่อช่วงเวลาที่ต้องจัดการกรมธรรม์รถยนต์ฉบับใหม่
2. เช็ก : โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ
เปรียบเทียบให้ดีว่าบริษัทผู้ให้บริการประกันรถยนต์ทั้งเจ้าเก่า-เจ้าใหม่ มีการคุ้มครองอะไรบ้าง ค่าเบี้ยประกันราคาเท่าไหร่และ สิทธิประโยชน์น่าสนใจแค่ไหน รวมถึงบริษัทใส่ใจกับเราหรือไม่ เพราะหากคุณมีความจำเป็นที่ต้องใช้สิทธิ์เคลมรถ แต่กลับเจอเจ้าหน้าที่ที่ไม่มี Service Mind ก็ถือเป็นเรื่องน่าปวดหัวเช่นกัน
3. เช็ก : สภาพรถยนต์อย่างละเอียด
การซื้อประกันรถยนต์ ไม่ว่ากับบริษัทใดก็ตามก่อนที่บริษัทจะอนุมัติกรมธรรม์ รถของคุณจะถูกตรวจสอบ ดังนั้นเจ้าของรถต้องเช็กอย่างรอบคอบ ไม่ใช่แค่ใช้สายตาสอดส่องดูร่องรอยด้วยตัวเอง แนะนำให้เข้าศูนย์บริการรถยนต์ที่เชี่ยวชาญ ถ้ารถมีร่องรอยความเสียหายคุณจะได้แก้ไขทันที
เช็กเหตุผลว่า ควรเปลี่ยนประกันภัยรถยนต์หรือไม่
คนมีรถทุกๆคน คงเคยผ่านช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจว่าจะต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิมหรือควรเปลี่ยนไปลองใช้เจ้าใหม่ นอกจากรายการที่เราได้แนะนำในหัวข้อ To Do List รายการที่ต้องเช็กก่อนต่อประกันรถยนต์ ยังมีอีกปัจจัยสำคัญ ที่ต้องนำมาใช้ตัดสินใจว่าควรเปลี่ยนประกันรถยนต์หรือไม่ คือ
‘คุณเป็นผู้ถือประกันรถยนต์…ที่มีพฤติกรรมการขับขี่เป็นอย่างไร?’
ถ้าการขับขี่ดี ไม่มีประวัติเสียหาย
หากตลอดระยะเวลาที่คุณถือประกันฉบับเก่า แล้วไม่มีการเคลมความเสียหายที่คุณเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันเจ้าเดิมอาจเสนอโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าเพื่อรักษาคุณที่เป็นลูกค้าชั้นดีเอาไว้ ถือเป็นเหตุผลที่น่าสนใจเพราะช่วยประหยัดค่าเบี้ยได้มากกว่าการเปลี่ยนไปทำประกันกับบริษัทอื่น
ทำไมควรต่อประกันรถยนต์เจ้าเดิม
- ต่อประกันง่าย ได้ส่วนลดคุ้มค่า ถ้าคุณได้รับโปรโมชั่นหรือส่วนลดจากบริษัทเดิม ก็ไม่ต้องจำเป็นต้องมองหาเจ้าอื่นแล้ว เพื่อลดขั้นตอนการยื่นเอกสารขอทำกรมธรรม์หรือกระบวนการตรวจสอบต่างๆที่บริษัทให้จะตรวจเช็กมากกว่าที่เดิม
- เคลมง่าย ได้บริการที่คุ้นเคย ถ้าคุณต่อประกันที่เดิม บริษัทจะมีข้อมูลของคุณอยู่แล้ว ซึ่งง่ายต่อการเคลมบริการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘รถให้ใช้ชั่วคราวระหว่างรถรอซ่อม’ ที่จำเป็นต้องมีการพิจารณาจากประวัติของผู้ขอเคลม แน่นอนว่าการขอรับบริการนี้จากที่เก่าอาจจะง่ายกว่าที่ใหม่
- กรณีที่คุณไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหรือไม่มีประวัติขอเคลมประกันรถยนต์ บริษัทเจ้าเดิมจะมอบ ‘ส่วนลดประวัติดี’ ให้คุณทันที เมื่อทำการต่อประกันรถยนต์ปีถัดไป รายละเอียด ดังนี้
ส่วนลดประวัติดี (No Claim Bonus)
- ระดับที่ 1 ประวัติดี ในปีแรก : ถ้าต่อปีที่ 2 รับส่วนลดเบี้ยประกัน 20%
- ระดับที่ 2 ประวัติดี ในปีที่สอง : ถ้าต่อปีที่ 3 รับส่วนลดเบี้ยประกัน 30%
- ระดับที่ 3 ประวัติดีในปีที่สาม : ถ้าต่อปีที่ 4 รับส่วนลดเบี้ยประกัน 40%
- ระดับที่ 4 ประวัติดีในปีที่สี่ : ถ้าต่อปีที่ 5 และปีถัดๆ ไปรับส่วนลดเบี้ยประกัน 50%
ส่วนลดประวัติดี (No Claim Bonus) เป็นสิทธิพิเศษที่บริษัทผู้ให้ประกันรถยนต์ทุกเจ้า ต้องส่งมอบให้กับเจ้าของรถทุกคนที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด และไม่มีบริษัทใดที่สามารถฝ่าฝืนได้ เพราะเป็นกฏข้อบังคับจากคปภ. (ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย)
ถ้าการขับขี่มีสถิติเคลมบ่อย
ถ้าเจ้าของรถคนไหนมีประวัติการเคลมบ่อยๆ การเลือกต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิม มีความเสี่ยงจะโดนคิดค่าเบี้ยประกันแพงขึ้น แน่นอนว่านี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คุณต้องมองหาบริษัทประกันรถยนต์เจ้าใหม่ไว้แต่เนิ่นๆ
ทำไมเหตุควรเปลี่ยนประกันรถยนต์เจ้าใหม่
- เบี้ยประกันแพงขึ้นจากประวัติการขับขี่รถยนต์ที่ไม่ค่อยดีนัก ตั้งแต่การเฉี่ยวชนที่เกิดร่องรอยเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงอุบัติเหตุที่ได้รับความเสียหายรุนแรง รวมถึงกรณีที่บริษัทเก่าเรียกเก็บเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นทั้งที่เรามีประวัติการขับขี่ดีมาตลอด
- เบี้ยประกันถูกลง จ่ายน้อยกว่าที่เก่าแต่ได้ความคุ้มครองเหมือนเดิม รวมถึงส่วนลดและสิทธิพิเศษที่บริษัทผู้ให้บริการประกันรถยนต์ใช้เป็นโปรโมชั่นเป็นแรงจูงให้ ให้ลูกค้าใหม่ซื้อกรมธรรม์
- ไม่พึงพอใจบริการของบริษัทเก่า ตั้งแต่การติดต่อยาก ขอเคลมลำบาก ขั้นตอนเบิกเงินซับซ้อน ช่องทางจ่ายค่าเบี้ยประกันไม่หลากหลาย ศูนย์บริการไม่ครอบคลุม แม้กระทั่งพนักงานไม่มี Service Mind
ยกเลิกประกันภัยรถยนต์ต้องทำอย่างไร
เจ้าของรถที่ต้องการยกเลิกประกันรถยนต์เพื่อไปซื้อกรมธรรม์กับบริษัทใหม่ จะต้องดำเนินการขอยกเลิกกับบริษัทผู้ให้บริการประกันภัยรถยนต์รายเก่า ดังนี้
- วิธียกเลิกประกันภัยรถยนต์ ต้องมีการติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งการระงับสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แจ้งความประสงค์ขอยกเลิกกรมธรรม์รถยนต์ และข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุลที่อยู่และทะเบียนรถที่ต้องการยกเลิก
- ระยะเวลาแจ้งยกเลิก ถ้าผู้ให้บริการประกันรถยนต์เป็นฝ่ายขอยกเลิกสัญญาเอง บริษัทต้องทำหนังสือแจ้งการระงับกรมธรรม์ล่วงหน้า อย่างน้อย 30 วัน แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายยกเลิก คุณสามารถระบุวันที่ต้องการให้สัญญาฉบับเก่าสิ้นสุดได้ตามความสะดวก แต่วันเวลาที่ต้องการควรเป็นหลังจากที่บริษัทได้รับหนังสือขอยกเลิกกรมธรรม์
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นขอยกเลิกประกันรถยนต์
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัย
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร
- เล่มกรมธรรม์ประกันภัยตัวจริงที่ต้องการยกเลิก
- แบบฟอร์มขอใช้สิทธิ์ยกเลิกกรมธรรม์ พร้อมลงลายมือชื่อ
เลือกประกันรถยนต์อย่างไรให้ได้ประโยชน์คุ้มค่าที่สุด
เลือกบริษัทที่บริการดี เข้าถึงง่ายได้ทุกที่ทุกเวลา
- บริษัทผู้ให้บริการประกันรถยนต์ที่ดีต้องติดต่อง่าย มีหลากหลายช่องทาง เพราะการดำเนินการเรื่องรถยนต์ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามต้องสะดวกสบายและรวดเร็วที่สุด เหมือนกับประกันรถยนต์จากโลตัส มันนี่ พลัส ที่มีสาขามากถึง 220 ที่ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ภูมิภาคใดก็ครอบคลุมทุกพื้นที่มีเคาน์เตอร์ใกล้บ้านคอยบริการ ไม่ว่าจะชำระค่าเบี้ย ต่ออายุประกันหรือสอบถามข้อสงสัยก็ทำได้อย่างสะดวก
เลือกบริษัทที่มีตัวช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกัน
- โปรโมชันหรือสิทธิพิเศษของบริษัทประกันก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะค่าใช้จ่ายของประกันรถยนต์เป็นเรื่องที่หลักเลี่ยงไม่ได้ จะดีกว่าไหม? ถ้าบริษัทที่คุณเลือกต่อกรมธรรม์มีตัวช่วยที่สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้คุณได้ประหยัดมากขึ้นที่ โลตัส มันนี่ พลัส สามารถชำระค่าบริการด้วยตัวเองง่ายๆด้วยระบบออนไลน์ และยังมีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย ช่วยให้คนรักรถวางแผนการเงินได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ตั้งแต่ สิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน และเลือกได้ว่าจะ แบ่งชำระเงินสด 0% หรือ แบ่งชำระเงินสดไม่มีดอกเบี้ย โดยสามารถทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตโลตัสและบัตรเครดิตอื่นๆ ที่ร่วมรายการ
เลือกบริษัทที่มีแผนประกันภัยรถยนต์ครอบคลุม
- บริษัทผู้ให้บริการประกันภัยรถยนต์ ควรสามารถคุ้มครองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวรถ คุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอกและคุ้มครองบุคคลภายนอก(รายละเอียดความคุ้มครองแตกต่างตามประเภทของประกันภัย) และมีแผนประกันภัยที่สามารถรองรับความต้องการของคนมีรถได้ทุกคน เหมือนอย่างที่โลตัส มันนี่ พลัส มีแผนประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ / 2 และประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ / 3 ครอบคลุมการรับประกันภัยรถทุกประเภทพิเศษมากขึ้นด้วยแผนประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แบบเฉพาะจังหวัดที่ใช้ในการการจดทะเบียน
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) https://www.oic.or.th/th/press-release/19032