คนมีรถต้องรู้ ทำอย่างไรให้เบี้ยประกันถูกลง
เบี้ยประกันรถยนต์ ขึ้นอยู่กับอะไร
เบี้ยประกันรถยนต์ คือ เงินที่ผู้ทำประกันภัยต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันเพื่อแลกกับความคุ้มครองที่บริษัทประกันจะมอบให้ โดยเบี้ยประกันจะคำนวณจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจัยหลักๆ ที่มีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกันรถยนต์ ได้แก่
- ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการคิดเบี้ยประกันรถยนต์ โดยบริษัทประกันจะประเมินความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ เช่น อายุของผู้ขับขี่ ประวัติการขับขี่ ประเภทของรถ ประวัติการเคลมประกัน เป็นต้น
- วงเงินความคุ้มครอง วงเงินความคุ้มครองที่สูงขึ้นจะส่งผลให้เบี้ยประกันสูงขึ้นตามไปด้วย
- ระยะเวลาการประกันภัย ระยะเวลาการประกันภัยที่นานขึ้นจะส่งผลให้เบี้ยประกันสูงขึ้นตามไปด้วย
- ค่าเบี้ยประกันเบ็ดเตล็ด ค่าเบี้ยประกันเบ็ดเตล็ดอาจรวมถึงค่าเบี้ยประกันสำหรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น กล้องหน้ารถ กล้องมองหลัง เป็นต้น
เบี้ยประกันรถยนต์ถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับอะไร
โดยทั่วไปแล้ว เบี้ยประกันรถยนต์จะแพงขึ้นตามความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุของผู้ขับขี่และรถ โดยผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีอายุน้อย เพิ่งเริ่มหัดขับ หรือมีประวัติการเคลมประกันบ่อยครั้ง จะมีเบี้ยประกันที่แพงกว่าผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่ำ
นอกจากนี้ เบี้ยประกันรถยนต์ยังขึ้นอยู่กับวงเงินความคุ้มครอง โดยวงเงินความคุ้มครองที่สูงขึ้นจะส่งผลให้เบี้ยประกันสูงขึ้นตามไปด้วย เช่น การทำประกันภัยชั้น 1 ซึ่งมีวงเงินความคุ้มครองสูงสุด จะส่งผลให้เบี้ยประกันสูงกว่าการทำประกันภัยชั้น 3 ซึ่งมีวงเงินความคุ้มครองต่ำสุด
ระยะเวลาการประกันภัยที่นานขึ้นก็ส่งผลต่อเบี้ยประกันที่สูงขึ้นเช่นกัน เช่น การทำประกันภัยรถยนต์แบบรายปี จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าการทำประกันภัยรถยนต์แบบรายเดือน
ค่าเบี้ยประกันเบ็ดเตล็ดอาจส่งผลต่อเบี้ยประกันได้เช่นกัน เช่น การทำประกันภัยรถยนต์พร้อมอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น กล้องหน้ารถ กล้องมองหลัง เป็นต้น
ประเภทประกันรถยนต์ แต่ละแบบเบี้ยประกันเป็นอย่างไร
ประกันภัยรถยนต์แต่ละแบบต่างก็มีราคาเบี้ยประกันไม่เท่ากัน ยิ่งคุ้มครองสูง เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายก็ย่อมแพงขึ้นตามไปเช่นกัน ซึ่ง ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด โดยให้ความคุ้มครองทั้งความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ความรับผิดต่อทรัพย์สินของตนเอง และความเสียหายต่อตัวรถของตนเอง
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ เป็นประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1 แต่ให้ความคุ้มครองเฉพาะความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเท่านั้น และไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถของตนเอง
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเท่านั้น แต่ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถของตนเอง และความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ไม่มีคู่กรณี
โดยสรุปแล้ว ประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทจะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เบี้ยประกันรถยนต์ในแต่ละประเภทก็แตกต่างกันเช่นกัน โดยประกันภัยรถยนต์ประเภทที่มีวงเงินความคุ้มครองสูง เบี้ยประกันก็จะสูงตามไปด้วยเช่นกัน
ประวัติการขับขี่ มีผลกับเบี้ยประกันรถยนต์แค่ไหน
ประวัติการขับขี่มีผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์เป็นอย่างมาก โดยบริษัทประกันจะประเมินความเสี่ยงของผู้ขับขี่จากประวัติการขับขี่ที่ผ่านมา ซึ่งประวัติการขับขี่ที่ไม่ดี เช่น มีประวัติการเคลมประกันบ่อยครั้ง ขับรถเร็วเกินกำหนด ขับรถโดยประมาท หรือขับรถในขณะเมาสุรา จะส่งผลให้เบี้ยประกันรถยนต์แพงขึ้น เช่น
- ประวัติการเคลมประกัน ผู้ขับขี่ที่มีประวัติการเคลมประกันบ่อยครั้ง จะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง ดังนั้น บริษัทประกันจึงจะเรียกเก็บเบี้ยประกันที่แพงกว่าผู้ขับขี่ที่ไม่มีประวัติการเคลมประกัน
- ประวัติการขับรถเร็วเกินกำหนด ผู้ขับขี่ที่ขับรถเร็วเกินกำหนด มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงเช่นกัน ดังนั้น บริษัทประกันจึงจะเรียกเก็บเบี้ยประกันที่แพงกว่าผู้ขับขี่ที่ขับรถด้วยความระมัดระวัง
- ประวัติการขับรถโดยประมาท ผู้ขับขี่ที่ขับรถโดยประมาท เช่น ขับรถตัดหน้าโดยไม่ระมัดระวัง ขับรถสวนเลน ขับรถฝ่าไฟแดง เป็นต้น มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงเช่นกัน ดังนั้น บริษัทประกันจึงจะเรียกเก็บเบี้ยประกันที่แพงกว่าผู้ขับขี่ที่ขับรถด้วยความระมัดระวัง
- ประวัติการขับรถในขณะเมาสุรา ผู้ขับขี่ที่ขับรถในขณะเมาสุรา มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด ดังนั้น บริษัทประกันจึงจะเรียกเก็บเบี้ยประกันที่แพงกว่าผู้ขับขี่ที่ไม่ดื่มสุราขณะขับขี่
หากต้องการลดเบี้ยประกันรถยนต์ สามารถทำได้โดยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ดื่มสุราขณะขับขี่ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ อาจพิจารณาทำประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ เพื่อลดเบี้ยประกันได้อีกด้วย
ยี่ห้อและรุ่นของรถ ปัจจัยที่ทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ถูกหรือแพง
ยี่ห้อและรุ่นของรถมีผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์ เนื่องจากบริษัทประกันจะประเมินความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากปัจจัยต่างๆ เช่น มูลค่าของรถ ประสิทธิภาพในการปกป้องผู้โดยสาร และอัตราการเคลมประกันของรถรุ่นนั้นๆ
- รถที่มีมูลค่าสูง เช่น รถหรู รถนำเข้า หรือรถสปอร์ต จะมีความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมหรือเกิดอุบัติเหตุสูง ดังนั้น บริษัทประกันจึงจะเรียกเก็บเบี้ยประกันที่แพงกว่ารถที่มีมูลค่าต่ำ
- รถที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผู้โดยสารสูง เช่น รถที่มีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC) ระบบถุงลมนิรภัย เป็นต้น จะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงน้อยกว่ารถที่ไม่มีระบบความปลอดภัยที่ดี ดังนั้น บริษัทประกันจึงจะเรียกเก็บเบี้ยประกันที่ต่ำกว่ารถที่ไม่มีระบบความปลอดภัยที่ดี
- รถที่มีอัตราการเคลมประกันสูง เช่น รถที่มีประวัติการเคลมประกันบ่อยครั้ง หรือรถที่มียี่ห้อและรุ่นที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เป็นต้น จะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง ดังนั้น บริษัทประกันจึงจะเรียกเก็บเบี้ยประกันที่แพงกว่ารถที่มีอัตราการเคลมประกันต่ำ
ดังนั้น แม้จะทำประกันภัยรถยนต์ประเภทเดียวกัน แต่เบี้ยประกันก็ไม่เท่ากัน เนื่องจากยี่ห้อและรุ่นของรถก็ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเช่นกัน
ซื้อประกันรถยนต์ ทำอย่างไรให้เบี้ยประกันถูกลงได้บ้าง
ติดตั้ง กล้องหน้ารถ ช่วยให้เบี้ยประกันถูกลงได้อย่างไร
การติดตั้งกล้องหน้ารถ ช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ เนื่องจากกล้องติดรถยนต์ทำหน้าที่บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนท้องถนน ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานในการเคลมประกันได้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น กล้องในรถยนต์ที่ติดไว้จะช่วยพิสูจน์ว่าผู้เอาประกันไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ถูกกระทำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่บริษัทประกันใช้ในการพิจารณาอนุมัติการเคลมประกัน
นอกจากนี้ การติดตั้งกล้องในรถยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถยนต์และผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ ส่งผลให้บริษัทประกันมีความเสี่ยงในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนน้อยลง จึงสามารถลดเบี้ยประกันรถยนต์ให้กับผู้เอาประกันได้
โดยปกติแล้ว บริษัทประกันจะมอบส่วนลดราคาพิเศษให้กับผู้เอาประกันที่มีกล้องติดตั้งในรถยนต์ โดยส่วนลดราคาพิเศษจะแตกต่างกันไปตามบริษัทประกันและประเภทของกล้องวงจรปิดที่ใช้ เช่น กล้องติดรถยนต์ ที่มีระบบบันทึกภาพแบบ Full HD หรือกล้องรถยนต์ที่มีระบบบันทึกภาพแบบ 360 องศาดังนั้น การติดตั้งกล้องในรถยนต์จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ โดยสามารถช่วยลดเบี้ยประกันได้ตั้งแต่ 5-20% ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันและคุณสมบัติของกล้องที่ใช้
ค่าเสียหายส่วนแรกทำไมช่วยให้เบี้ยประกันถูกลง
ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คือ จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบก่อนบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยค่าเสียหายส่วนแรกจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
ค่าเสียหายส่วนแรกช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ เนื่องจากบริษัทประกันมีความเสี่ยงในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนน้อยลง ตัวอย่างเช่น หากผู้เอาประกันเลือกค่าเสียหายส่วนแรก 5,000 บาท และเกิดอุบัติเหตุขึ้น ค่าเสียหายอยู่ที่ 10,000 บาท บริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ 5,000 บาท และให้ผู้เอาประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาท
การจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่จ่ายต่างกันตรงที่
จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก | ไม่จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก |
เบี้ยประกันถูกลง | เบี้ยประกันแพงขึ้น |
ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกหากเกิดอุบัติเหตุ | ไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกหากเกิดอุบัติเหตุ |
เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ระมัดระวัง | เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุ |
ระบุผู้ขับขี่มีผลกับราคาเบี้ยประกันรถยนต์อย่างไร
การระบุผู้ขับขี่มีผลต่อราคาเบี้ยประกันรถยนต์ เนื่องจากบริษัทประกันจะประเมินความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุของผู้ขับขี่แต่ละคน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- อายุ ผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยจะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าผู้ขับขี่ที่มีอายุมาก เนื่องจากผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยมักจะมีประสบการณ์ในการขับรถน้อยกว่า
- อาชีพ ผู้ขับขี่ที่มีอาชีพที่ต้องขับรถเป็นประจำ เช่น พนักงานขับรถแท็กซี่ หรือพนักงานขับรถส่งของ จะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าผู้ขับขี่ที่มีอาชีพอื่น เนื่องจากผู้ขับขี่ที่มีอาชีพที่ต้องขับรถเป็นประจำมักจะขับรถเป็นเวลานานและบ่อยครั้ง
- ประวัติการขับขี่ ผู้ขับขี่ที่มีประวัติการขับขี่ดี หมายถึง ผู้ขับขี่ที่ไม่เคยมีประวัติการเคลมประกันรถยนต์มาก่อน หรือมีประวัติการเคลมประกันรถยนต์น้อยครั้ง จะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่ำกว่าผู้ขับขี่ที่มีประวัติการเคลมประกันรถยนต์บ่อยครั้ง
ดังนั้น หากผู้เอาประกันเลือกทำประกันรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่ บริษัทประกันจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ในการกำหนดเบี้ยประกัน โดยผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง จะต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงกว่าผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่ำ
ซื้อประกันรถยนต์กับโลตัสดีอย่างไร
หัวใจสำคัญที่ช่วยให้การซื้อประกันรถยนต์คุ้มค่าและตรงใจ คือการมองหาบริการจากตัวแทนดีๆ ที่จริงใจ เชื่อถือได้ และเข้าใจคนมีรถเพื่อให้ขั้นตอนของการทำประกันรถยนต์เป็นเรื่องสะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อซื้อประกันรถยนต์กับโลตัส โบรคเกอร์ ที่มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วไทย พร้อมให้บริการผ่านหน้าสาขาทุกวันเวลา 09.30 - 20.00 น. และทางเว็บไซต์ ประกันภัยรถยนต์โลตัส ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง มั่นใจได้ว่ามีตัวตนจริงไม่หนีหายไปไหน พร้อมมอบตัวเลือกในการซื้อประกันให้คุ้มค่าด้วยโปรโมชันดีๆ ต่อเนื่องทั้งปี ไม่ว่าจะ
- ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้โดยการผ่อนประกันรถยนต์เงินสดได้ที่เคาน์เตอร์โลตัส
- ได้รับความคุ้มครองทันที (เงื่อนไขเป็นไปตามการพิจารณารับประกันของบริษัทประกันภัย)
- ผ่อนแบบไม่ต้องเสียดอกเบี้ย* สูงสุด 10 เดือน
- มีหลายบริษัทประกันภัยชั้นนำให้เลือกตามความต้องการ
- โลตัสมีบริการรับต่อประกันรถยนต์โดยไม่ต้องติดต่อประกันเอง
- โลตัสมีศูนย์บริการกว่า 200 สาขา ครอบคลุมการให้บริการทั่วประเทศ
สามารถสอบถามเพิ่มเติมเรื่องการทำประกันรถยนต์ โลตัสพร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องประกันภัยรถยนต์ ติดต่อได้ทันที โทร 026278888 หรือ แอดไลน์ @servicelotusbroker